แคปชั่น คำคม ภาษาอังกฤษ เพื่อน ความรัก คิดบวก ฮวงจุ้ยบ้าน

10 ภาวะในทารกแรกเกิดที่เป็นบ่อย คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด

ในเด็กแรกเกิดอาจมีภาวะหลาย ๆ อย่างที่พ่อแม่อาจกังวลใจ บางอาการไม่น่าเป็นห่วงเพราะเป็นเรื่องปกติที่ทารกอาจะเป็นได้ทั่วไป แต่บางอาการอาจต้องอาศัยการสังเกต การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เช่น นิ้วมือนิ้วเท้ามีสีม่วงคล้ำไม่หาย ต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจเกิดจากภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ดังนี้ 10 อาการต่อไปนี้ คุณพ่อคุณแม่ทั้งมือใหม่มือเก่าไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

 

 

1.สิ่งที่มีมาแต่กำเนิด

เด็กที่เกิดมาแต่ละคนเมื่อดูโดยรวมมักไม่พบตำหนิที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด หมอเด็กที่ตรวจก็อาจลืมบอกพ่อแม่ด้วยคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะฉะนั้นหากลูกของคุณอาจมีตำหนิเหล่านี้หนึ่งอย่างหรือสองอย่างก็ไม่ต้องกังวล

 

2.นิ้วมือนิ้วเท้ามีสีม่วงคล้ำ

มือและเท้าของเด็กแรกเกิดมักมีสีม่วงคล้ำโดยเฉพาะเมื่ออากาศเย็น ทารกผิวขาวอาจทำให้ดูเหมือนตัวลายทั้งตัวเวลาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่ถ้าพบว่าเหงือกของลูกน้อยสีคล้ำลงหรือมีสีผิวรอบปากคล้ำลง อาจเป็นสัญญาณของภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติจึงควรพบแพทย์

 

3.ภาวะตัวเหลือง

ทารกส่วนใหญ่มีภาวะตัวเหลืองตาเหลืองสาเหตุเกิดจากการมีสารบิลิรูบินในเลือด ซึ่งเกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดง ตามปกติสารบิลิรูบินจะถูกกำจัดผ่านทางตับและลำไส้ออกไปกับอุจจาระทำให้อุจจาระมีสีเหลือง ระบบขับถ่ายของเด็กยังทำงานได้ไม่เต็มที่และลำไส้ทำงานได้น้อยในช่วง 2-3 วันแรก จึงทำให้เกิดภาวะตัวเหลือง มีส่วนน้อยที่เด็กตัวเหลืองเพราะเกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดงมากผิดปกติ หรือมีสาเหตุจากตับทำงานช้ากว่าปกติซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสมองได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ หากพบว่าลูกตัวเหลืองมากผิดปกติ

 

ทารกที่กินนมแม่อย่างเดียวบางคนมีปัญหาตัวเหลืองระหว่าง 1 – 2 สัปดาห์ แต่หากเด็กแข็งแรงปกติ การขับถ่าย การดูดนม น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ซึม ไม่มีไข้ หากได้รับการตรวจว่าไม่ได้มีสาเหตุความผิดปกติอาจไม่จำเป็นต้องรักษา สามารถให้นมแม่ต่อได้ ตัวจะหายเหลืองภายใน 1 ถึง 2 เดือนแต่หากเด็กซึมไม่ดูดนมน้ำหนักตัวขึ้นน้อย อาจมีความผิดปกติที่รุนแรง เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เด็กที่ตัวเหลืองจากความผิดปกติของตับหรือท่อน้ำดี หรือการขาดฮอร์โมนไทรอยด์มีโอกาสเป็นได้แต่พบได้น้อยมาก

 

4.การหายใจ

ทารกมักจะหายใจไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวช้า บางครั้งอาจหายใจเบาจนแม่แทบไม่ได้ยินเสียงหรือไม่ก็แรงมากจนพุงกระเพื่อม ทารกอาจกรนเบาเบาๆสาเหตุมาจากเยื่อบุโพรงจมูกอาจบวมเล็กน้อยจากการนอนแช่น้ำคร่ำมานาน

 

5.ไส้เลื่อนที่สะดือหรือสะดือจุ่น

เราอาจเคยได้ยินว่าคนที่สะดือจุ่นเพราะตอนเป็นเด็กมักจะร้องไห้เก่ง แต่ความเป็นจริงจะดูที่ไม่ยุบลงไป แต่กลับพบพื้นผิวหนังขึ้นมาเกิดจากชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังยังมีช่องโหว่อยู่ แม้ผิวด้านนอกจะปิดเรียบทำให้บางส่วนของลำไส้ถูกดันขึ้นมา เวลาที่รองให้เมื่อแรกเกิด อาจสังเกตเห็นไม่ชัดแต่จะชัดเมื่อมีอายุประมาณ 2 เดือน บ้างคนอาจมีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 3-4 เซนติเมตร แต่ส่วนมากขนาดจะลดลงและยุบหายได้เองภายใน 1 ปี การรักษาโดยการผ่าตัดจะทำเมื่อขนาดของสะดือที่ยื่นออกมามีขนาดใหญ่ผิดปกติและเด็กอายุ 8 ขวบ เป็นต้นไป

 

6.เต้านมโต

ทารกทั้งเพศชายและหญิงอาจมีเต้านมโตและบางคนอาจมีน้ำนมออก เป็นอิทธิพลฮอร์โมนจากแม่ ไม่ต้องรักษาห้ามบีบหรือนวดเพราะจะทำให้เต้านมอักเสบและติดเชื้อ

 

7.เมือกขาวหรือประจำเดือนจากช่องคลอด

ทารกเพศหญิงอาจมีเมือกขาวหรือเลือดออกจากช่องคลอดเป็นอิทธิพลฮอร์โมนจากแม่ไม่ต้องรักษา

 

8.ลูกอัณฑะผิดตำแหน่ง

เมื่อแรกเกิด ทารกเพศชายบางคนอาจมีลูกอัณฑะในถุงเพียงหนึ่งข้างหรือไม่มีเลย แต่อาจอยู่บริเวณขาหนีบหรือยังคงอยู่ในช่องคลอดแต่จะลดลงมาได้เองภายใน 1 ปี หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง รักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อให้การทำงานของลูกอัณฑะกลับมาปกติและป้องกันไม่ให้กลายเป็นมะเร็ง หากถูกทิ้งไว้ในช่องท้อง

 

9.อาการผวาหรือสั่น

เมื่อมีเสียงดังหรือถูกเปลี่ยนท่าในการอุ้ม เด็กอาจมีอาการผวาเป็นกลไกธรรมชาติเพื่อป้องกันตัวหรือการทรงตัวของเด็ก อย่างเช่นเวลาอาบน้ำ เด็กบางคนอาจไม่ชอบที่ถูกเพราะอาจกลัวแม่จะทำเขาหลุดมือ ทำให้เด็กมีอาการผวาหรือมีอาการสั่นของแขนขา ดังนั้นการอุ้มทารกควรเป็นไปอย่างนุ่มนวลจะทำให้อาการตกใจจะดีขึ้นเมื่อเขาโตขึ้นเป็นลำดับ

 

10.กระตุก

อาการชักมักจะเกิดขึ้นขณะหลับ เด็กบางคนนาน ๆ เป็นทีแต่บางคนเป็นบ่อยอาการนี้หายเอง เมื่อโตขึ้น

 

ที่มาและการอ้างอิง

ดร.สป๊อก-นายแพทย์เบนจามิน สป๊อก (เขียน).แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ (แปล).คำภีร์เลี้ยงลูก (51-54).กรุงเทพ.อมรินทร์สุขภาพ.2552.

Exit mobile version