วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

20 วิธี ดูแลห้องนอนเพื่อสุขภาพ และถูกสุขลักษณะ

ห้องนอนที่ถูกสุขลักษณะควรเป็นห้องที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว สะอาด ปราศจากกลิ่นและเสียงรบกวน สำหรับท่านที่มีบ้านเดี่ยวคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่นัก เพราะบ้านเดี่ยวในการจัดแบ่งห้องต่างๆ เป็นสัดส่วนอยู่แล้ว ปัญหาในการจัดห้องนอนมักเกิดกับผู้ที่อาศัยในทาวเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ หรือห้องชุดคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด ห้องนอนเลยกลายเป็นห้องอเนกประสงค์ไป คือ นอกจากจะใช้นอนหลับพักผ่อนแล้ว ยังใช้เป็นห้องทำงาน ดูทีวี แต่งตัว ทำให้การจัดห้องนอนต้องวางแผนจัดระเบียบให้ถูกสุขลักษณะ โดยให้ยึดหลักง่ายๆ คือ โล่ง โปร่ง สบาย สะอาด ปราศจากสิ่งรบกวน ซึ่งทำได้ไม่ยาก ก่อนอื่นมาดูกันว่าห้องนอนที่ดีนั้นควรเป็นอย่างไร ควรมีเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้าง และมีวิธีรักษาความสะอาดห้องนอนอย่างไร

 

 

1.ตำแหน่งของห้องนอน ควรอยู่ในทิศตะวันออกเพื่อรับแสงแดดยามเช้า แดดอ่อนๆ ตอนเช้าทำให้รู้สึกถึงความสดชื่น

 

2.สีสันในห้องนอน โทนสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทาห้องนอนคือ สีโทนเย็น โทนอบอุ่น หรือสีพาสเทล ได้แก่ สีฟ้าอ่อน เขียวอ่อน เหลืองอ่อน เพราะสีโทนดังกล่าวนี้จะทำให้ผู้อาศัยรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายใจ หากชอบสีสันจี๊ดจ๊าดสดใส เปลี่ยนไปเล่นสีสันกับผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน หรือรูปภาพจะดีกว่า เพราะเราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตลอดเวลาตามความต้องการ

 

3.ผ้าม่าน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องนอน และควรเลือกผ้าที่ไม่จับฝุ่น ทำความสะอาดง่าย เลือกลวดลายและสีสันที่ดูแล้วสบายตา

 

4.เตียงนอน เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่สุดและอาจมีขนาดใหญ่สุดในห้อง ดังนั้นจึงต้องจัดวางให้เหมาะสม ตำแหน่งที่เหมาะสมคือวางไว้ค่อนมาทางผนังด้านที่ไม่ติดกับหน้าต่าง จะได้สะดวกในการเปิดปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และทำความสะอาด การเลือกเตียงนอนก็สำคัญ ควรเลือกเตียงแบบขาโปร่ง พื้นที่ใต้เตียงจะได้โล่งสามารถทำความสะอาดได้สะดวก หากเป็นเตียงแบบไม่มีขาเตียง ดูภายนอกอาจจะดูเรียบร้อย แต่ใต้เตียงอาจจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น หรือเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ เช่น มด ปลวก แมลงสาบ

 

5.ที่นอน แล้วแต่ความชอบ คนยุโรปชอบที่นอนนุ่มมีสปริง แต่คนเอเชียอย่างเราส่วนใหญ่ชอบที่นอนแข็งเพราะทำให้ไม่ปวดหลัง แต่ไม่ว่าจะเลือกที่นอนอย่างไรหรือวัสดุใด ควรพลิกกลับที่นอนทุกๆ 6 เดือน และสังเกตสภาพที่นอนสม่ำเสมอ เช่น มีรอยยุบเป็นแอ่ง มีสปริงโผล่ทะลุออกมาจากที่นอนหรือไม่ เหล่านี้เพื่อสวัสดิภาพในการนอน หากพบความเสียหายของที่นอนอย่าทนนอน ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ดีกว่า

6.ชุดเครื่องนอน ได้แก่ ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม ควรเลือกที่มีคุณภาพดี ทำความสะอาดง่าย เช่น ผ้าปูที่นอนควรเลือกเป็นผ้าฝ้าย ซาติน ที่จะทำให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อสัมผัส หมอนต้องไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป

 

7.โต๊ะทำงาน ท่านที่ชอบทำงานก่อนเข้านอนควรหามุมให้โต๊ะทำงาน อาจเป็นด้านข้างหรือปลายเตียงเพื่อไม่ให้เสียงจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์การทำงานรบกวนคนที่นอนด้วย

 

8.ทีวี คนส่วนใหญ่ชอบนอนดูบนเตียงก่อนนอน บ้างก็ให้เสียงจากทีวีกล่อมนอนจนหลับ คุณๆ ที่เข้าข่ายที่ว่านี้ควรวางทีวีไว้ปลายเตียงจะเหมาะสุด แต่อย่าวางใกล้มากเกินไป เพราะเสียงและแสงจากทีวีอาจรบกวนการนอนของคนนอนข้างๆ

 

9.เก้าอี้นั่งสบายสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ห้องนอนใหญ่พอประมาณ ใช้สำหรับนั่งอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ส่วนใหญ่จะวางข้างเตียงใกล้หน้าต่าง ถ้าจะเพิ่มสตูลสำหรับวางเท้าจะทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น

 

10.โต๊ะข้างเตียง สำหรับเก็บของ วางหนังสือ ตั้งโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ หรืออาจจะใช้เป็นตู้ใบเล็กแทนสำหรับคนที่ชอบสะสมของ

 

11.โคมไฟ ห้องนอนเป็นห้องสำหรับพักผ่อน ดังนั้นการใช้แสงสว่างทั้งห้องจึงไม่จำเป็น มาเน้นให้สว่างเฉพาะจุดโดยใช้โคมไฟช่วย เช่น โคมไฟหัวเตียงสำหรับอ่านหนังสือ โคมไฟตั้งโต๊ะเวลาทำงาน มีให้เลือกหลายแบบหลายทรง ทั้งตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น แขวนผนังทรงกลม ทรงรี แล้วแต่ชอบ สำหรับหลอดไฟแนะนำให้ใช้หลอดสี cool white แสงชนิดนี้จะสร้างบรรยากาศในการนอนได้ดีมากเลยทีเดียว

 

12.รูปภาพแขวนผนัง ใครที่ชอบประดับผนังด้วยรูปภาพเพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนก็ควรเลือกภาพที่ดูแล้วสดชื่น เจริญตา เจริญใจ เช่น ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพดอกไม้ ภาพวาดแนวศิลปะ ให้เลือกภาพใหญ่ขนาดเดียว หรือถ้าภาพที่เลือกในขณะมีภาพเล็กหลายๆ ภาพ การติดผนังก็ควรคำนวณระยะห่างของแต่ละภาพให้เหมาะ ถ้าจะสร้างบรรยากาศขึ้นอีกนิด ใช้ไฟ down light หลอด halogen ชนิดปรับมุมได้ สาดเข้าไปที่รูปภาพจะได้บรรยากาศไม่แพ้โรงแรมชั้นหนึ่งเลยทีเดียว

 

13.ห้องนอนไม่ควรปูพรมอย่างยิ่ง เพราะพรมเก็บฝุ่นได้ดี อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ แต่ถ้าชอบจริงๆ แนะนำให้ใช้พรมชิ้นเล็กวางเฉพาะจุด เช่น วางไว้ข้างเตียง ปลายเตียง

 

14.เครื่องปรับอากาศหรือพัดลม ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งคือ ติดตั้งในแนวขวางกับเตียงนอน ขยับเยื้องไปทางปลายเตียงเล็กน้อย เพราะการติดตั้งไว้ที่เหนือศีรษะหรือปลายเท้าอาจทำให้เราไม่สบายจากการได้รับไอเย็นโดยตรงเป็นระยะเวลานาน และเมื่อต้องการปิดเครื่องปรับอากาศ ควรปิดห้องไว้ก่อนสัก 15 นาที แล้วค่อยเปิดหน้าต่างให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา เนื่องจากถ้าปล่อยให้อากาศร้อนเจอกับกาศเย็นทันทีมวลอากาศจะควบแน่นกันเป็นไอ ทำให้มีความชื้นสะสมตามที่นอนและวัสดุที่ทำจากผ้า ตามมาด้วยกลิ่นอับภายในห้องนอนซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

 

15.เปิดหน้าต่างประตูรับสายลมและแสงแดด ห้องนอนที่ดีควรมีหน้าต่างและประตูที่สามารถเปิดรับแดดยามเช้าเพื่อความสดชื่นแจ่มใส รับลมที่จะช่วยให้มีการระบายอากาศ เป็นการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากมีหน้าต่างน้อยบาน การติดตั้งพัดลมดูดอากาศก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้

 

16.ควรดูดฝุ่นในห้องนอนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อกำจัดการสะสมของฝุ่นตามพื้น บนโต๊ะทำงาน และใต้เตียงอันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ หอบหืด

 

17.ที่นอนและเครื่องนอน เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ให้ซักทำความสะอาดบ่อยๆ หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง

 

18.วันไหนแดดจัดๆ ควรนำที่นอนและหมอนออกมาตากแดดบ้าง ช่วยฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่นอับและความชื้น

 

19.ควรให้ช่างมาล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง

 

20.เพิ่มความหอมความสดชื่นให้ห้องนอนด้วยการหาดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมที่ชอบมาปักแจกันไว้ หรือจะเป็นพวกน้ำมันหอมระเหย กลิ่นจากพืชธรรมชาติ กลิ่นที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับสบายขึ้น ตัวอย่างเช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ เป็นต้น

 

 

สำหรับสไตล์ในการตกแต่งห้องนอนอันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน ลองทำตามข้อแนะนำข้างต้นรับรองว่าท่านจะนอนหลับอย่างมีความสุข ตื่นอย่างสดชื่นจิตใจแจ่มใส พร้อมไปลุยงานหนักได้อย่างสบายแน่นอน

 

ที่มาและการอ้างอิง :

กระดูกและข้อ ผิวหนัง หัวใจและหลอดเลือด โดย : ภุมรินทร์ ณ วิเชียร มัณฑนากร HealthToday August 2017