เห็ดหลินจือ ยับยั้งเชื้อ HIV-1 นับเป็นสมุนไพรที่ได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะของชาวจีนมานับพันปี ด้วยสรรพคุณทางยาที่สามารถรักษาโรคได้หลายชนิดด้วยกันรวม ทั้งโรคที่วิทยาการด้านการแพทย์แผนใหม่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่างโรคเอดส์ เป็นต้น ทั้งนี้เพราะในเห็ดหลินจือมินสรรพคุณในการยับยั้งเชื้อ HIV-1 ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ในช่วงที่มีการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV ได้ ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยอีกด้วย การรับประทานเห็ดหลินจือเพื่อบำบัดโรคเอดส์นั้น สามารถทำได้โดยการบริโภคเห็ดหลินจือสำเร็จรูปแบบแคปซูล ซึ่งมีจำหน่ายทั่วไปโดยจะรับประทานก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น) ตามจำนวนที่ระบุในฉลาก หรืออีกวิธีหนึ่งที่เราสามารถรับประทานเห็ดหลินจือในรูปของสมุนไพร คือ แบบเป็นแผ่นแห้งโดยนำแผ่นเห็ดหลินจืนั้นมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปต้มจนเดือดเคี่ยวทิ้งไว้สักครู่ ปิดไฟ แล้วยกลงจากเตา รอจนอุ่นได้ที่ รินใส่แก้วรับประทานต่างน้ำเป็นประจำทุกวัน อาการต่างๆ ก็จะทุเลาลงในไม่ช้า
เห็ดหลินจือต้านมะเร็ง เห็ดหลินจือ มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการเกิดมะเร็ง และป้องกันการเกิดโรคได้นอกจากนี้เห็ดหลินจือยังมีโปรตีน Lz-8 ซึ่งมีคุณสมบัติปรับภูมิคุ้มกัน ช่วยในการทำงานของเซลล์ให้เป็นปกติได้ ที่สำคัญเห็ดหลินจือมีความปลอดภัยสูงช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของตับ ในผู้ป่วยที่ต้องการทำคีโมติดต่อกันเป็นเวลานาน จนส่งผลทำให้ตับเสื่อมเร็ว ส่วนในด้านผลกระทบที่ทำให้เม็ดเลือดขาวลดลง (เม็ดเลือดขาวแห้ง) นั้น การรับประทานเห็ดหลินจือ จะไปช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น เห็ดหลินจือถือเป็นยาอายุวัฒนะของชาวจีนมาช้านาน เพราะนอกจากจะช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินโลหิต โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โรคเกี่ยวกับตับ และไต ช่วยป้องกันโรคไตวาย ป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพาตรวมไปถึงโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องอีกด้วย
นอกจากเห็ดหลินจือแล้ว เห็ดในลักษณะต่าง ๆ ก็จะช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย เพราะ “เห็ด” ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่มีแคลอรี่น้อย ไขมันต่ำ โซเดียมต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล ทั้งยังมีแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโพแทสเซียม ที่ช่วยลดความดันโลหิต และ ซีลีเนียม ที่เป็นสารต้านมะเร็ง เห็ดมีวิตามินมากมายหลายชนิดที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ได้แก่
– วิตามินบี 1 ช่วยให้เจริญอาหาร มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะอ่อนๆ ลดการติดเชื้อทางเดินหายใจและป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
– วิตามินบี 2 ให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตาเช่นเดียวกับวิตามินเอ นอกจากนี้ยังให้ความชุ่มชื้นกับอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกาย อาทิ จมูก ปาก ลําคอช่องคลอด และทวารหนัก เป็นต้น
– วิตามินดี เปรียบเสมือนสื่อนำธาตุแคลเซียม เพราะวิตามินดีจะดูดซึมแคลเซียมไปใช้ในการสร้างและบำรุงกระดูกและฟัน
– ธาตุเหล็ก ช่วยในการบำรุงโลหิต เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจาง รวมทั้งบำรุงร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ลดอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย
– ทองแดง เปรียบเสมือนผู้ช่วยของธาตุเหล็กในการบำรุงโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดกระบวนการโปนตีนไกลเคชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง และยังก่อให้เกิดความผิดปกติต่างๆ ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
– ซีลีเนียม เป็นเกลือแร่ที่มีหน้าที่ในการช่วยประสานงานให้กับ วิตามิน เอ บี และ ซี และเมื่อซีลีเนียมจับมือกับวิตามินอี ก็จะส่งผลในการต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
– โพแทสเซียม มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวรวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง และลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ “เห็ด” จึง เป็นอาหารชั้นยอดที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะ “เห็ดหอม” ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคมะเร็งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยชะลอความแก่และบํารุงสมองด้วย ทั้งนี้ยังช่วยในการดูดซึมเกลือแร่ เสริมสร้างกระดูกและฟัน เห็ดหยังให้โปรตีนพืชที่มีคุณภาพดีเพราะมีกรดอะมิโนต่างๆที่ร่างกายต้องการอีกด้วย
ที่มาและการอ้างอิง
รู้ทันโรคบริโภคสมุนไพร ผู้แต่ง อารีรัตน์
