วันศุกร์, 4 ตุลาคม 2567

5 ข้อต้องรู้ “กระชาย”มีสรรพคุณอะไรบ้าง? Ep.84

กระชายเป็นไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ในดิน น้อยคนนักที่จะรู้ว่าต้นกระชายเป็นยังไง ถ้าไม่เห็นเหง้ากระชายที่เป็นแง่ง ๆ สีเหลือง ก็คงยากที่เดาออกได้

ต้นกระชายมีขนาดไม่ใหญ่มาก ลักษณะต้นคล้าย ๆ พืชจำพวกบอน คือ จะมีก้านใบแทงขึ้นมาจากดิน ใบขนาดใหญ่ ขึ้นเป็นกอ โดยที่กระชายจะมีก้านสีแดง ใบรูปรีปลายแหลม มีดอกสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ บ้างก็ม่วงอมชมพู ออกเป็นช่อแทรกอยู่ตามก้านใบ

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ คือส่วนที่เป็นเหง้าและราก ซึ่งจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ กระชายที่พบทั่วไปจะมีอยู่ 3 ชนิด แยกตามสีของราก คือกระชายดำ กระชายแดง และกระชายที่เราเห็นส่วนใหญ่ก็คือ กระชายเหลือง

สรรคุณในด้านสมุนไพรของกระชายมีอยู่มากมาย แต่ที่โดดเด่นในการบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ จะมี 5 ประเภทดังนี้

1.กระชายเรียกกำลังขับลม

นอกจากจะมีคุณสมบัติเป็นเครื่องเทศ ที่นำมาผสมในเครื่องแกงของไทย ที่ใช้รสฉุนกลิ่นหอมร้อนแรงแล้ว กระชายโดยมากจะใช้เป็นสมุนไพรขับลม มีสรรพคุณแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ หรือเวียนศรีษะ

สรรพคุณทางยา สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรับประทานในรูปของอาหาร เครื่องดื่ม และยาสมุนไพรชนิดเม็ดหรือแคปซูล เป็นต้น รสเผ็ดร้อนและกลิ่น สามารถดับคาวเนื้อสัตว์ได้ จึงนิยมใช้เป็นเครื่องเทศปรุงแต่งรสอาหาร โดยเฉพาะจำพวกแกงเผ็ดหรือผัดเผ็ด ช่วยชูรสอาหารได้ดีเยี่ยม

กระชายยังเป็นยาได้โดยตรง เพียงแค่นำเหง้ากระชายสดเอามาซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ จะต้มกับน้ำหรือกินสดก็ได้ ช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ได้ดี สามารถกินเพื่อเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยบำรุงหัวใจได้ดีไม่แพ้โสม เพราะมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ

วิธีเข้าตัวยา

1. แก้ท้องเดินทั่วไป เหง้ากระชายสด 1-2 แง่ง บุบพอแตกโดยไม่ต้องขูดเปลือก ผิงไฟให้แห้ง บดด้วยครกผสมน้ำปูนใส ๑ ช้อนแกง กินวันละ ๔ ครั้ง

2. ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เหง้าสด 2-3 แง่ง ขูดเปลือกออก ซอยให้ละเอียด ชงกับน้ำร้อน ๑ ถ้วยกาแฟ ดื่มหลังอาหารหรือจะกินสดโดยไม่ต้องผสมน้ำร้อนก็ได้

3. บำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหาร เหง้ากระชายสด ตากแดดให้แห้งสนิทแล้วบดให้เป็นผง ใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 ถ้วยกาแฟ ดื่มเป็นประจำ

สรรพคุณเด่นของกระชาย

กระชายมีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังได้ดี โดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อรา กลากเกลื้อน รักษาได้ชะงัด เรียกว่าไม่ต้องพึ่งหมอ แค่กระชายแง่งเดียวก็เอาอยู่ โดยการนำเหง้ากระชายมาขูดเอาเปลือกออกบุบพอแตก แล้วเอามาขัดบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อน ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยอาบน้ำ ต้องทนแสบผิวสักนิดแต่ได้ผลดี

เหนืออื่นใด กระชายเป็นสมุนไพรเสริมกำลังกำหนัดและแก้กามตายด้าน ซึ่งมาจากสรรพคุณที่กินเพื่อเรียกกำลัง โดยใช้กระชายดำดองกับเหล้าขาว เวลาใช้ก็นำกระชายดำที่ดองแล้ว 2-3 แง่ง บดให้ละเอียดกับเหล้าขาวที่ใช้ดอง 1 ช้อนแกง กินเป็นประจำ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย

2.กระชายช่วยต้านเชื้อ HIV

กระชายนอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้กระชุ่มกระชวย ช่วยเสริมสมรรถนะทางเพศแล้ว ปัจจุบันยังมีการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดจากกระชายยังมีสรรพคุณในการยับยั้งเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

งานวิจัยนี้ทำขึ้นโดย รศ.ดร. สุภิญญา ติ๋วตระกูล นักวิจัยและอาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยอาจารย์สุภิญญา ได้ทดลองนำกระชายมาทำเป็นสารสกัดหยาบ แล้วนำไปทดสอบฤทธิ์ พบว่าในกระชายมีสารแพนดูราติน เอ และไฮดรอกซี แพนดูราติน เอ ซึ่งแยกได้จากเหง้ากระชาย โดยสารเหล่านี้ จะมีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์โปรตีนเอสของเชื้อ HIV ได้

นอกจากกระชายแล้ว ในงานวิจัยครั้งเดียวกันนี้ อาจารย์สุภิญญา ยังพบว่า ใบกะเม็ง ซึ่งปกติเป็นพืชที่มีสรรพคุณในเรื่องการบำรุงไต แก้ลำไส้อักเสบ แก้ตับอักเสบ รวมถึงช่วยห้ามเลือดได้นั้น เมื่อนำมาสกัด จะพบสารออโรบอล และเวเดโลแลคโตน ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของเอนไซดม์อินทีเกรส ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำหน้าที่เชื่อมสายดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเข้ากับดีเอ็นเอของคน

ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า เมื่อการทำงานของเอนไซม์นี้ถูกยับยั้ง เชื้อไวรัส HIV ก็ไม่สามารถแพร่กระจายไปสู่เซลล์อื่นได้อีก แม้ว่างานวิจัยครั้งนี้ จะเป็นเพียงการวิจัยในระดับหลอดทดลองเท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาสมุนไพรรักษาผู้ติดเชื้อได้ต่อไป และยังถือเป็นความหวังให้กับใครได้หลายคน

3.กระชายรักษาริดสีดวงทวาร

กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสาร Alpinetin, Pinecembrin, Cardamonin, boesenbe gin A, Pibostrobin และน้ำมันหอมระเหย มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลายชนิด เช่นแก้อาการปวดท้อง มวนท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ บำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด รักษาอาการของโรคริดสีดวงทวาร แก้บิด ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้อาการโลหิตเป็นพิษ ถอนพิษต่างๆ บำรุงธาตุ รักษาแผลในปาก และใช้เป็นยาทาภายนอกรักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้อีกด้วย

สำหรับการนำกระชายมาใช้รักษาอาการโรคริดสีดวงทวาร สามารถทำได้โดยการนำเหง้าสดประมาณ 6-8 เหง้า (60 กรัม) ผสมกับเนื้อมะขามเปียก 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนโต๊ะ นำทั้งหมดมาตำรวมกัน จากนั้นนำไปต้มกับน้ำ 6 แก้ว เคี่ยวให้เหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน วันละ 1/2 แก้ว ควรใช้ยาขนานนี้ติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือน อาการริดสีดวงทวารจะค่อย ๆ หายไปในที่สุด

4.กระชายช่วยแก้อาการท้องร่วง

สำหรับการนำกะชายมารักษาอาการของโรคท้องร่วงท้องเดิน สามารถทำได้โดยนำเหง้าสดของกระชายจำนวน 1 – 2 เหง้า ไปย่างไฟพอหอม แล้วนำมาตำผสมกับน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำ รับประทานครั้งละ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ อาการท้องร่วงก็จะค่อย ๆ ทุเลาลง

สำหรับการใช้กระชายในการรักษาอาการปวดท้อง ท้องเสีย เนื่องจากการติดเชื้อหรือบิดนั้น สามารถทำได้โดยการใช้เหง้าสด 2 เหง้า มาตำหรือบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำนำมาดื่มครั้งละ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ อาการคลื่นไส้อาเจียนและปวดมวนท้องเนื่องจากบิด จะค่อย ๆ ดีขึ้น

5.กระชายแก้ปวดท้อง

กระชาย เป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าสั้นอยู่ใต้ดิน สามารถแตกหน่อแยกออกเป็นแขนงได้มากมาย เหง้าและรากของกระชายมีรสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณในการแก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ และใช้เป็นยาทาภายนอก รักษาโรคผิวหนังได้

สำหรับวิธีการใช้กระชายในการบำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ สามารถทำได้โดยนำเหง้าและรากของกระชายมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปอกเปลือก ล้างน้ำเปล่าอีกครั้ง จากนั้นนำไปหั่นเป็นแว่นเล็ก ๆ แล้วตากแดดจนแห้ง นำมาบดเป็นผงละเอียดเวลาจะรับประทานให้ใช้กระชายผงแห้ง 1 ช้อนชาชงกับน้ำร้อน 1/2 ถ้วยชา รับประทานวันละ 1 ครั้ง จะช่วยให้กระชุ่มกระชวย ช่วยบำรุงธาตุบำรุงโลหิตได้อย่างดี

ที่มาและการอ้างอิง

รู้ทันโรคบริโภคสมุนไพร ผู้แต่ง อารีรัตน์
50 วิธี หยุดป่วยด้วยสมุนไพร,นาถศิริ ฐิติพันธ์ เรียบเรียง
108 สมุนไพรไทย ใช้เป็น หายป่วย โดย พิมลพรรณ อนันต์กิจไพศาล