วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

10 วิธีในการต่อสู้กับกลิ่นปาก Ep.112

ปัญหาสุขภาพช่องปากที่หลาย ๆ คนมักจะกังวลกันเป็นพิเศษก็คือ “กลิ่นปาก” เพราะว่าแค่อ้าปากนิดเดียวมันก็ทำให้บุคคลิกดี ๆ เสียไปทันที ถ้ามันพากลิ่นแปลก ๆ ออกมาด้วย

 

เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลอยู่มาก หลายคนพยายามพูดกับคนอื่นให้น้อยลง เพราะไม่อยากให้คู่สนทนาได้กลิ่นปาก แถมยังทำให้คนอื่นพาลไม่อยากคุยกับเราไปดื้อ ๆ บั่นทอนบุคลิกภาพลงไปทันที

 

โดยส่วนใหญ่แล้ว เราก็จะแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการอมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือไม่ก็จะหนีไปกลั้วปาก หรือแปรงฟัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง โดยเฉพาะหลังจากที่เราดื่มกาแฟ หรือหลังกินข้าวไปแล้ว ซึ่งก็จะสามารถแก้ปัญหากลิ่นปากได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว เพราะจริง ๆ แล้วปัญหากลิ่นปากที่เกิดขึ้นเรื้อรัง อาจมีสาเหตุจากสุขภาพภายในร่างกายของเราด้วย ซึ่งเราคงต้องตรวจอย่างละเอียดกันอีกทีว่ามันเกิดจากอะไรบ้าง

 

ทางการแพทย์พบว่าร้อยละ 80-90 ของผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง มักมีสาเหตุมาจากปัญหาภายในช่องปาก ที่มีทั้งลิ้นเป็นฝ้า ร่องเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์หรืออวัยวะรอบฟันอักเสบ แผลในช่องปาก ฟันผุ ฟันคุด ฟันซ้อนเก ฟันปลอมหรือวัสดุอื่น ๆ ที่ใส่เพื่อจัดแต่งฟันไม่สะอาด มีเศษอาหารติดค้าง ส่วนปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดกลิ่นปากคือ อาหาร แม้จะไม่ใช่ตัวการก่อกลิ่นที่เรื้อรัง แต่การรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนสูง อย่าง กระเทียม เครื่องเทศ หัวหอม รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ จะนำพากลิ่นแปลก ๆ ให้เกิดขึ้นในปากได้ รวมถึงการสูบบุหรี่ด้วย

 

 

10 วิธีในการต่อสู้กับกลิ่นปาก

1.หากคุณใส่ฟันปลอม ในตอนกลางคืนให้ถอดออกและทำความสะอาด เพื่อกำจัดการสะสมของแบคทีเรียจากอาหารและเครื่องดื่ม

2.ดื่มน้ำให้มาก เพราะมีประโยชน์ในการทำให้ลมหายใจยามเช้าสดชื่นขึ้นได้

3.แปรงฟันหลังการรับประทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันทุกวันอย่างน้อยวันละสองครั้ง

4.เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกสองถึงสามเดือน

5.จัดตารางในการตรวจสุขภาพฟันประจำปี

6.ขูดลิ้นของคุณทุกเช้าด้วยเครื่องขูดลิ้น (หรือใช้ช้อนก็ได้) เพื่อลดแบคทีเรียเชื้อราและเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้

7.เคี้ยวเมล็ดกานพลู หรือเมล็ดยี่หร่าสักหนึ่งกำมือ เพราะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก

8.เคี้ยวมะนาวหรือเปลือกส้มเพื่อให้ได้รสชาติที่สดชื่น (ล้างเปลือกให้สะอาดก่อน) กรดซิตริกจะกระตุ้นต่อมน้ำลายและต่อสู้กับกลิ่นปาก

9.เคี้ยวผักชีฝรั่ง ใบโหระพา หรือสะระแหน่ คลอโรฟิลล์ในพืชสีเขียวเหล่านี้ จะช่วยกำจัดกลิ่นปากได้

10.ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ผสมน้ำหนึ่งถ้วยกับเบกกิ้งโซดา และน้ำมันหอมระเหยต้านเชื้อแบคทีเรียจากสะระแหน่ จะช่วยบรรเทาเรื่องกลิ่นปากได้

 

นอกจากนั้น กลิ่นปาก อาจเกิดขึ้นเพราะร่างกายส่งสัญญาณบอกความเจ็บป่วยจากอวัยวะภายใน เช่น ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ อาทิ การอักเสบหรือมะเร็งในโพรงจมูก ไซนัส ทอนซิล คอหอย กล่องเสียง หรือปอด โรคของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ การอักเสบของหลอดอาหาร โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทั้งนี้ยังมีการวิจัยพบว่า โรคกรดไหลย้อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผิวทางเดินหายใจ มีผลให้น้ำมูกข้นเหนียวกว่าปกติ และจะไหลลงลำคอด้านหลังจมูก (Post Nasal Drip) ซึ่งเป็นอาการเดียวกับผู้ที่ทางเดินหายใจอักเสบเรื้อรัง มากไปกว่านั้นยังมีการป่วยด้วยโรคตับ โรคไต และโรคเบาหวาน ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้อีก โดยทั้ง 3 โรคนี้จะมีกลิ่นเฉพาะของแต่ละโรคค่อนข้างชัดเจน

 

source : prd , everydayhealth