วันเสาร์, 27 กรกฎาคม 2567

(ฮวงจุ้ย) 15 ข้อ ตำแหน่งห้องพระ การตั้งที่จู่เอี้ย และศาลพระภูมิ

 

1.ตําแหน่งที่ตั้งห้องพระ

ห้องพระควรจัดตั้งไว้ในที่สูง ทิศที่เหมาะสมในการตั้งห้องพระหรือทิ้งพระได้แก่ทิศเหนือ ทิศตะวันออก หรือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห้องพระควรเป็นห้องที่มีความสงบ อากาศถ่ายเทดี ไม่ควรตั้งห้องพระที่มีคนเดินไปเดินมาพลุกพล่าน ไม่ควรตั้งหิ้งพระที่คนภายนอกสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย

 

2.หิ้งพระอยู่ใต้บันไดหรือใต้คาน

ทิ้งพระหรือห้องพระที่อยู่ใต้บันไดหรือใต้คาน เป็นการวางตําแหน่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย พระพุทธรูปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรอยู่ต่ําและไม่ควรวางใต้บันไดหรือคาน ซึ่งมีคนเดินขึ้นลงตลอด เสมือนเป็นการข้ามหัวพระ ถือว่าอัปมงคลมาก ทําให้ชีวิตไม่เจริญรุ่งเรือง

 

วิธีแก้ฮวงจุ้ย

ควรย้ายการวางตําแหน่งหิ้งพระหรือห้องพระให้ไปอยู่ที่สงบ หรือจัดให้อยู่ในบริเวณที่สูง หากบ้านมีสองชั้น ควรทําห้องพระไว้ชั้นบนจะเป็นมงคลที่สุด หากต้องการไว้ชั้นล่างของบ้าน และ หลีกเลี่ยงการวางหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาใต้คาน ควรตั้งในบริเวณที่สงบและไม่ติดกับห้องน้ำห้องนอน หรือห้องรับแขกที่มีเสียงดังรบกวน

 

3.ห้องพระติดห้องน้ำ

ห้องพระใช้ผนังเดียวกับห้องน้ำ หรือห้องพระหันหน้าเข้าหาห้องน้ำ หรือห้องน้ำอยู่แนวเดียวกับห้องพระ ถือว่าไม่เป็นมงคล ทําให้พระเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ ฮวงจุ้ยเชื่อว่า เป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทําให้ขาดโชคลาภ ขัดสนเรื่องเงินทอง ชีวิตไม่รุ่งเรือง

 

วิธีแก้ฮวงจุ้ย

ให้ย้ายห้องพระให้ห่างจากห้องน้ำ หากไม่สามารถทําได้ ให้หาตู้มากั้นผนังระหว่างห้องพระ และห้องน้ำ หันหน้าพระไปทางทิศอื่นไม่ให้ตรงกับห้องน้ำ อย่าตั้งหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาอิงผนังห้องส้วม หากห้องส้วมอยู่เหนือห้องพระ ให้ย้ายห้องพระไปยังที่อื่น

 

4.ห้องพระติดห้องนอน

ห้องนอนติดห้องพระนั้นไม่ส่งผลเสียมากเท่ากับห้องน้ำ แต่ข้อควรระมัดระวังคือ การวางเตียงนอน ไม่ควร เอาปลายเตียงนอนหันไปยังห้องพระ เพราะถือว่าปลายเท้าที่ชี้ไปยังห้องพระ เป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทําให้ขาดโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่โต๊ะหมู่บูชา ใช้ผนั เดียวกับหัวเตียงนอนก็ถือว่าไม่ดี ส่งผลให้นอนไม่หลับ เครียดง่าย

 

วิธีแก้ฮวงจุ้ย

หากปลายเตียงชี้ไปยังห้องพระให้ย้าย หรือถ้าห้องนอนอยู่เหนือห้องพระ ก็ให้ย้ายห้องนอนหรือย้ายห้องพระ อย่าให้ตรงกัน

 

5.รูปบรรพบุรุษในห้องพระ

รูปภาพบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว สามารถนํามาไว้ในห้องพระได้ แต่ควรแยกโต๊ะบูชาต่างหาก และให้อยู่ต่ํา กว่าพระพุทธรูป โดยให้รูปบรรพบุรุษหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ถึงจะดีเป็นมงคล นอกจากห้องพระแล้ว สามารถตั้งรูปบรรพบุรุษ ในห้องที่มีความสงบอื่นได้ แต่ระวังอย่าตั้งพิงห้องน้ำ หรือบันได และควรตั้งกลางบ้านและไม่ควร หันหน้าออกหน้าบ้านเพราะไม่เป็นมงคล

 

6.ตั้งพระพุทธรูปลอย

การตั้งโต๊ะหมู่บูชาหรือวางพระพุทธรูปหลังลอย ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าไม่เป็นมงคล ทําให้ขาดคนอุปถัมภ์ ค้ำชู หน้าที่การงาน และการเงินไม่มีความมั่นคง ดังนั้น ควรตั้งโต๊ะหมู่บูชาอิงผนังด้านใดด้านหนึ่ง อย่าปล่อยให้ หลังพระพุทธรูปลอย แต่ก็ไม่จําเป็นต้องถึงกับตั้งให้องค์พระแนบชิดติดกับกําแพง หากด้านหลังไม่มีกําแพงให้หาฉากหรือตู้มากั้น เพื่อไม่ให้หลังพระพุทธรูปลอย นอกจากนี้ อย่าลืมทําความสะอาดห้องพระและองค์พระ เพื่อช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคลภายในบ้าน

 

7.การตั้งตี่จู้เอี้ยะ

ตี่จู้เอี้ยะ เป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนเชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาดูแลบ้าน ให้สมาชิกครอบครัวมีความสุข และป้องกันภัยพิบัติและวิญญาณชั่วร้าย การตั้งหิ้งบูชาตี่จู้เอี้ยะต้องให้ศาลติดอยู่กับพื้นชั้นล่างสุดของบ้าน และหัน หน้าออกไปทางประตูบ้าน จะวางด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ หากตั้งตี่จู้เอี้ยะครั้งแรกควรให้ซินแสผู้ชํานาญเป็นคนทําพิธีให้ โดยหาฤกษ์ยามและตําแหน่งที่ตั้งด้วย นอกจากนี้ควร เลือกศาลให้เหมาะกับบ้านคือไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป แท่นรองรับศาลควรมีความสูงประมาณ 8 นิ้ว

 

8.ตั้งตี่จู้เอี้ยะใต้พัดลมหน้าต่าง

ใต้พัดลมหน้าต่าง หรือสิ่งที่มีความเคลื่อนไหวตลอด ไม่ควรทําเป็นที่ตั้งศาลตี่จู้เอี้ยะ เนื่องจากศาลเจ้าที่ เป็นพลังนิ่ง ถ้าตั้งศาลใต้หรือใกล้กับสิ่งเคลื่อนไหว จะทําให้เจ้าที่ไม่อยู่นิ่ง ส่งผลให้เกิดความสั่นคลอน ไร้ความมั่นคงแก่ผู้อยู่อาศัยได้

 

9.สถานที่ห้ามตั้งศาลตี่จู้เอี้ยะ

สถานที่ห้ามตั้งศาลตี่จู้เอี้ยะได้แก่ บริเวณที่ตั้งเตาไฟ หรือใกล้ความร้อนอื่นๆ ทําให้เจ้าที่ร้อนอยู่ไม่ได้ ส่งผลให้ ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน ห้ามตั้งศาลใต้หิ่งพระหรือ หันหน้าเข้าหาโต๊ะหมู่บูชา เชื่อว่าเจ้าที่จะมีอานุภาพด้อย กว่าพระพุทธรูป ไม่สามารถทํางานได้สะดวก นอกจากนี้ ไม่ควรตั้งศาลใกล้ห้องน้ำ ห้องครัว หรือประตู เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา

 

10.ตี่จู้เอี้ยะใต้บันได ใต้คานบ้าน

การตั้งศาลเจ้าที่ตี่จู้เอี้ยะใต้บันได ซึ่งเป็นตําแหน่งที่มีความเคลื่อนไหว มีการขึ้นลงตลอดเวลา เป็นการตั้งศาลที่ไม่เหมาะสม เสมือนเป็นการไม่เคารพเจ้าที่ อีกทั้งบันไดเปรียบเหมือนใบมีด ทําให้เกิดความไม่มั่นคงแก่ผู้อยู่อาศัยได้ นอกจากนี้การตั้งตี่จู้เอี้ยะใต้คานบ้าน หรือมีชั้นวางของเหนือศาลก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากจะทําให้ผู้ อยู่อาศัยแบกรับภาระปัญหาอยู่เสมอ ดังนั้นจึงห้ามตั้งศาลใต้บันไดหรือคานบ้านเป็นอันขาด

 

11.กระถางธูปบูชา

ชาวจีนเชื่อว่ากระถางธูปบูชาตี่จู้เอี้ยะ เป็นส่วนหนึ่งที่จะนําโชคลาภมาให้แก่บ้าน ในกระถางธูปนิยมใส่เมล็ดพืช ห้าชนิดได้แก่ เมล็ดถั่วแดง (ลาภยศ) เมล็ดถั่วเขียว (ความอุดมสมบูรณ์) ข้าวเปลือก (ความเจริญงอกงาม ก้าวหน้า เมล็ดสาคู (ความสุขสมหวัง) เมล็ดข้าวสารย้อมสีแดง (โชคดีสิริมงคล) เมื่อใส่เมล็ดพืชในกระถางให้ตามด้วยขี้เถ้าธูป และใช้ผ้าแพรสีแดงผูกรอบกระถางธูป เพื่อความเป็นสิริมงคล กิจการการค้าเจริญรุ่งเรือง

 

12.ของไหว้และของประดับศาล

การกราบไหว้บูชาตี่จู้เอี้ยะ ควรทําทุกวัน โดยมีการถวายน้ำหรือน้ำชาที่ต้องเปลี่ยนทุกวัน และถวายผลไม้ ห้าชนิด (ต้องเป็นผลไม้เท่านั้น ห้ามถวายเนื้อสัตว์) ส่วนใหญ่นิยมถวาย ส้ม กล้วยหอม แอปเปิลสีแดง สาลี่ และองุ่น ส่วนของที่นิยมนํามาประดับศาล มักจะเป็นของที่มีความหมาย อาทิ ฟักทอง ฟักเขียว ตุ่มน้ำ และสัปรด ซึ่งจะใช้เป็นรูปปั้นจําลองเสียเป็นส่วนใหญ่

 

13.ศาลพระภูมิห่างจากตัวบ้าน

การตั้งศาลพระภูมิ ควรห่างจากตัวบ้านพอสมควร อย่าตั้งใกล้บ้านมาก และอย่าให้เงาบ้านทับศาล เพราะบ้านใหญ่กว่าศาล ถือว่าอัปมงคล ทําให้ชีวิตไม่เจริญรุ่งเรือง ขาดโชคลาภเงินทอง ดังนั้นควรเลือกหาตําแหน่ง การตั้งศาลพระภูมิให้ห่างออกจากตัวบ้านจึงจะดี และไม่ควรให้ศาลพระภูมิอยู่ตรงกับประตูบ้าน

 

14.การตั้งตําแหน่งศาลพระภูมิ

การหาตําแหน่งตั้งศาลพระภูมิ ส่วนใหญ่นิยมตั้งศาลพระภูมิบริเวณทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก และให้ผู้ พราหมณ์ พระ หรือซินแส มาช่วยทําพิธีตั้งศาลให้ โดยการหาฤกษ์ยามและตําแหน่งการตั้งศาล ถ้าเจ้าของบ้านไม่มีความรู้ในการตั้งศาลเอง อาจทําให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี และการตั้งศาลควรให้หน้าศาลหันมาที่ประตูรั้ว เพื่อส่งเสริมโชคให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข เจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ เงินทอง

 

15.ศาลพระภูมิถูกปิดล้อม

ศาลพระภูมิที่ถูกปิดล้อมด้วยน้ำรอบฐาน หรือรอบด้านทั้งสี่ทิศ ไม่โปร่งโล่ง หรือด้านหน้าศาลถูกปิดบัง หรือ ใกล้กับสิ่งปฏิกูล ถังขยะ ท่อน้ำเสีย ล้วนเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่สมควรตั้งศาลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากตั้งศาล แล้ว ควรแก้ไขสภาพแวดล้อมให้ดี ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความสุขความเจริญของผู้อยู่อาศัยอย่างมหันต์

 

Source : 500 เคล็ดลับ ปรับฮวงจุ้ยบ้านร่มเย็น คนร่ำรวย,เสฎฐกรณ์ โชคศิริกุลชัย