(ฮวงจุ้ย) ลักษณะบ้านริมน้ำที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย

การวิเคราะห์ฮวงจุ้ยบ้านที่อยู่ริมน้ำ จะมีข้อสังเกตที่แตกต่างไปจากบ้านทั่วไป ที่เห็นได้ชัดก็คือ สภาพแวดล้อมจะต่างกัน บ้านริมน้ำจะมี 2 บรรยากาศ ซึ่งเป็นบ้านในฝันของหลายๆ คน ที่ปรารถนาอยากจะเป็นเจ้าของบ้านริมน้ำด้วยกันทั้งนั้น 3 ตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นลักษณะบ้านริมน้ำโดยส่วนใหญ่ของประเทศไทยเรา แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ มีอะไรบ้างเราไปดูกัน

 

 

1.บ้านริมแม่น้ำลําคลอง

บ้านที่สร้างติดแม่น้ำลําคลอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสมัยก่อน ที่นิยมสร้างใกล้แม่น้ำ ถ้ามองในเชิงของฮวงจุ้ย บ้านริมน้ำถือว่าเป็นบ้านที่น่าจะถูกฮวงจุ้ยที่สุด เพราะมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับธรรมชาติ สภาพของหยิน-หยางสมดุล อากาศก็เย็นสบาย แต่ข้อสังเกตเวลาวิเคราะห์บ้านประเภทนี้ว่าฮวงจุ้ยดีหรือไม่จะ ต้องพิจารณาปัจจัย ดังต่อไปนี้

๑. ตำแหน่งบ้านอยู่บริเวณคุ้งน้ำ การดูคุ้งน้ำถือว่าสําคัญมาก เปรียบได้กับการดูถนนเข้าบ้าน ลองสังเกตว่าตําแหน่งของบ้านอยู่ บริเวณคุ้งน้ำ เป็นทางโค้งหรือไม่ ถ้าเป็นทางโค้ง กระแสน้ำจะต้องโอบตัวบ้านจึงจะถือว่าดี แต่ถ้าเป็นโค้งที่ตีจาก โดยหันส่วนโค้งเข้าหาบ้าน อย่างนี้ถือว่าฮวงจุ้ยบ้านนั้นเสียทันที

 

๒. ตําแหน่งบ้านอยู่บริเวณทางแยก ไม่ว่าจะสามแยกสี่แยก ก็จะถือว่าได้รับอิทธิพลจากสายน้ำที่ร้ายเช่นกัน เพราะบริเวณทางแยก จะเป็นจุดรวมน้ำที่ไหลมาจากเส้นทางอื่นๆ ทําให้กระแสน้ำบริเวณนั้น หมุนวน ปั่นป่วน ถือเป็นน้ำที่ให้ผลเสียมากกว่าผลดี

 

๓. ตําแหน่งบ้านอยู่ปลายน้ำ ตําแหน่งนี้ในทางฮวงจุ้ยถือว่าร้ายมาก เพราะบ้านจะไม่ได้รับประโยชน์จากสายน้ำเลย กลับเป็นผลเสียมากกว่า เพราะน้ำจะพัดพาเอาตะกอนมาทับถมกันบริเวณนี้ สภาพของน้ำจะนิ่ง ซึ่งถือเป็นน้ำตาย ไม่เจริญ ถ้ากระแสน้ำรุนแรงและตําแหน่งบ้านอยู่ตรงกับแม่น้ำพอดี อย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับทางสามแพร่งดีๆ นี่เอง

 

๔. คุณภาพของน้ำ ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เรื่องคุณภาพของน้ำในแม่น้ำลําคลอง ถ้าน้ำใสสะอาด ไม่มีสิ่งปฏิกูลใดๆ ลอยฟองอยู่ในน้ำ ก็ถือว่าฮวงจุ้ยบ้านนั้นได้ประโยชน์ แต่ถ้าน้ำเน่า ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วลําน้ำ บ้านที่อยู่ใกล้ก็จะหาความสุขได้ยาก แถมยังส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย นอกจากการดูความเน่าเสียของน้ำแล้ว คุณภาพน้ำอีกประการหนึ่ง ที่บ่งบอกว่าน้ำนั้นมีคุณภาพดีหรือไม่ ให้ดูที่กระแสน้ำที่ไหลผ่านบ้านว่าเป็นเช่นไร ตามหลักฮ วงจุ้ยจะบอกว่า น้ำที่ดีจะต้องไหลอย่างเรื่อยๆ เนื่อยๆ ไม่เร็วไปหรือไม่ไหลเลย กระแสที่ไหลเชี่ยวกราก ย่อมเป็นน้ำที่ไม่ดี โชคลาภบ้านนั้นจะไม่มีเหลือ

 

๕. ระยะห่างระหว่างบ้านกับน้ำ บางคนคิดว่าการที่บ้านอยู่ติดน้ำจะให้ผลดีที่สุด ความจริงแล้วในทางฮวงจุ้ยจะบอกว่า การที่บ้านอยู่ติดกับน้ำมากเกินไป จะเป็นผลเสียมากกว่า เพราะคนในบ้านจะได้รับความชื้นมาก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ระยะห่างที่ทางฮวงจุ้ยกําหนดไว้ จะใช้ความสูงของบ้านคูณด้วย 3 เช่น บ้านสูง 5 เมตร ระหว่างจากน้ำไปถึงตัวบ้านคือ 15 เมตร ซึ่งถือเป็นระยะห่างที่เหมาะสม

 

2.บ้านริมทะเลสาบ

จุดขายของหมู่บ้านส่วนใหญ่ มักจะจูงใจให้คนมาซื้อด้วยการสร้างทะเลสาบภายในโครงการ หรือไม่ก็เป็นสวนสาธารณะ โดยที่บ้านติดทะเลสาบ หรือสวนสาธารณะ จะมีราคาแพงกว่าจุดอื่น การที่ทางโครงการกล้ากําหนดราคาสูงกว่าจุดอื่น ก็เพราะทําเลที่ติดกับทะเลสาบ ถือเป็นทําเลที่ดีที่สุด และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป ที่ปรารถนาที่จะมีบ้านติดน้ำ

 

ใครๆ ก็อยากได้บ้านริมน้ำกันทั้งนั้น บ้านริมน้ำในแบบที่ติดทะเลสาบ จะมีส่วนที่ต่างไปจากบ้านที่ติดแม่น้ำลําคลอง เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยบ้านริมทะเลสาบ จึงมีปัจจัยในการพิจารณาไม่เหมือนกัน จุดต่างที่เห็นได้ชัดก็เห็นจะเป็นเรื่องของน้ำนั่นแหละ น้ำในทะเลสาบจะถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่น้ำตามธรรมชาติ เหมือนแม่น้ำลําคลอง คุณภาพของน้ำจึงสามารถที่จะควบคุมได้ ส่วนน้ำในแม่น้ำ จะไม่สามารถควบคุมได้ วันดีคืนดีอาจจะเน่าเสียขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ซึ่งจะทําให้ฮวงจุ้ยบ้านสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นั่นเป็นข้อดีของบ้านริมทะเลสาบ

 

ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดก็คือ บ้านส่วนใหญ่จะหันหลังให้ทะเลสาบ ซึ่งผิดหลักพื้นฐานในทางฮวงจุ้ยที่หลังบ้านโล่งเป็นน้ำ แต่โครงการที่ให้หน้าบ้านหันไปที่ทะเลสาบก็มี แต่จะมีน้อยมาก โดยหลักการที่ถูกต้องแล้ว จะต้องให้หน้าบ้านหันไปที่ทะเลสาบ โดยมีถนนขั้นกลางระหว่างบ้านกับทะเลสาบ ทําให้ระยะห่างระหว่างบ้านกับทะเลสาบสมดุลกัน จึงจะถือ ว่าฮวงจุ้ยดีและถูกต้อง

 

การวิเคราะห์บ้านริมทะเลสาบ จึงต้องดูปัจจัยในเรื่องนี้เป็นสําคัญ ถ้าใครกําลังเลือกซื้อบ้านริมทะเลสาบ ก็ควรจะเลือกโครงการที่หันหน้าไปที่ทะเลสาบจะดีกว่า  กรณีที่มีที่ดินอยู่ติดกับทะเลสาบเลย และมีพื้นที่ดินมาก การสร้างบ้านควรสร้างในลักษณะที่ตัวบ้านหันหน้าไปทางด้านข้าง เพื่อให้ ทะเลสาบอยู่ด้านข้างของบ้าน แทนที่จะอยู่หลังบ้านแบบบ้านทั่วไป ก็จะแก้ฮวงจุ้ยที่เสียได้

 

3.บ้านเรือนแพ

บ้านริมน้ำอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งมักพบเห็นตามชนบทมากกว่าในเมือง ก็คือบ้านประเภทเรือนแพ หรือบ้านที่สร้างลงไปในน้ำ ก็จะเข้าข่ายเดียวกัน บ้านเรือนแพในทางฮวงจุ้ยระบุไว้ชัดว่า เป็นบ้านของคนที่เร่ร่อน หาเช้า กินค่ํา ไม่มีหลักแหล่งแน่นอน ลอยไปก็ลอยมา จึงหาความมั่นคงในชีวิตค่อนข้างยาก บ้านริมน้ำประเภทนี้จึงไม่เหมาะอย่างยิ่ง ที่จะ ใช้เป็นที่อยู่ถาวร ถ้ามีไว้เพื่อพักผ่อนชั่วครั้งชั่วคราวก็ถือว่าดี เช่น เวลาไปเที่ยวล่องแพสักคืนสองคืน ก็ถือเป็นการพักผ่อนที่ได้ประโยชน์ เพราะได้อยู่ใกล้น้ำที่ให้ความสดชื่นเย็นสบาย แต่ถ้าอยู่ทุกวันก็จะกลายเป็นผลเสีย น้ำมีความชื้นมาก จึงมีผลต่อสุขภาพ

 

นอกจากนี้ การอยู่ใกล้น้ำมากเกินไป เวลาแสงแดดตกกระทบพื้นน้ำจะมีผลต่อสายตาอีกด้วย หลักในการวิเคราะห์บ้านริมน้ำ ปัจจัยที่สําคัญที่สุดก็คือการดูน้ำให้ออกว่า น้ำมีลักษณะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปทรงของน้ำ ขนาดของน้ำหรือคุณภาพของน้ำก็ตาม ฮวงจุ้ยจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยตัวนี้แหละ