วันพุธ, 11 ธันวาคม 2567

10 วิธีแก้ปัญหาผมมันง่าย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ Ep.126

ปัญหาหลาย ๆ อย่างในเรื่อง “ผม” ไม่ว่าจะเป็น ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ส่วนหนึ่งจะมีอาการผมมันร่วมอยู่ด้วย ซึ่งเกิดจากปัญหาของรูขุมขนบนหนังศีรษะ ที่มีต่อมไขมันบางส่วน ผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากจนทำให้ “ผมมัน”

สาเหตุของผมมันคืออะไร

อันที่จริงแล้วภาวะผมมัน จะพบได้บ่อยและพบได้ทั่วไป โดยมากเกิดจากต่อมไขมันที่รูขุมขนในหนังศีรษะ ไขมันเกิดได้จากการสะสมและไปอุดตันบริเวณรอบ ๆ รากผม จนทําให้การไหลเวียนของเลือด การนําสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงรากผม ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เจ้าต่อมไขมันพวกนี้ ก็จะหลั่งสารที่เรียกว่า “ไขมัน” ออกมา ข้อดีก็คือมันจะทำให้เส้นผมของเราไม่แห้งชี้ฟู มีน้ำหนัก และเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หากมันหลั่งน้ำมันมากจนเกินไป ก็จะทำให้ผมมันเยิ้มได้

รู้หรือไม่? ไขมันที่หนังศีรษะจำพวกนี้ หากสะสมมากขึ้นไปเรื่อย ๆ มันจะทำให้ระบบการทำงานของรากผมผิดเพี้ยนไป เมื่อเกิดผมร่วง ผมที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ก็ไม่ขึ้นมาเหมือนเดิม ทำให้มีปัญหาผมบางตามมา จนกระทั่งหัวล้านไปเลยก็มี

น้ำมันส่วนเกินนี้มากจาหลายสาเหตุ ทั้งในเรื่องของกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของวัย การตั้งครรภ์ สภาพอากาศ รวมไปจนถึงอาหารการกิน โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตและไขมัน หากรับประทานมากจนเกินไป จะมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผมมันเยิ้ม การไม่สระผมเป็นเวลานานหลายวัน จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันในรูขุมขน จึงไม่ต้องแปลกใจที่เราจะเห็นคนเหล่านี้มีผมมัน (เยิ้ม) จนเห็นได้ชัด ดังนั้นการควบคุมภาวะผมมันที่หนังศีรษะ จึงเป็นเรื่องที่เราควรป้องกันและควบคุมเป็นอันดับแรก

10 วิธีแก้ปัญหาผมมันง่าย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

1.อย่าสระผมบ่อยเกินวันละ 1 ครั้ง

การสระผมที่มากเกินไป อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองรวมถึงมีน้ำมันมากขึ้น จึงขอแนะนำว่า สระผมเพียงแค่วันละครั้งและล้างออกด้วยน้ำเย็นอย่างน้อย 1 นาที น้ำเย็นจะช่วยปิดหนังกำพร้าที่หนังศีรษะ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเส้นผม อย่าลืมว่าต้องล้างแชมพูและครีมนวดออกให้หมดด้วย หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นเกือบร้อนในการสระผม เพราะจะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเพิ่มได้

2.อย่าใช้ไดร์เป่าที่มีความร้อน

หลังจากสระผมแล้ว ควรปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติจะดีที่สุด อย่าใช้ไดร์เป่าผมโหมดความร้อน หรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่มีความร้อน เพราะจะไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันที่หนังศีรษะ จนทำให้เกิดผมมันเยิ้มได้ ยิ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นอากาศร้อนจะทำให้ผมมันเช่นเดียวกับความร้อนอื่น ๆ แต่หากปัญหาของคุณคือผมไม่เป็นทรงสวยงาม ก็ต้องเรียนรู้วิธีเลือกเซรั่มบำรุงผมให้เหมาะกับสภาพผม ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้

3.อย่าใช้แชมพู 2–in-1

แชมพู 2-in-1 คือแชมพูที่มีครีมนวดผมในขวดเดียวกัน ซึ่งเราเรียกกันว่า “คอนดิชั่นเนอร์” ข้อเสียคือ คุณไม่สามารถล้างเจ้าคอนดิชั่นเนอร์ออกไปได้หมด การทิ้งครีมนวดผมไว้เป็นเวลานาน ย่อมไม่เป็นผลดี เพราะการสะสมจะทำให้เกิดการอุดตันจนทำให้เกิดเป็นไขมัน ทำให้ผมมันเยิ้ม และปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ในที่สุด แต่อย่างไรแล้ว เส้นผมก็ยังต้องการการปรับสภาพอยู่ดี ดังนั้น ให้เลือกใช้แชมพู 1 ขวด และครีมนวดผมอีก 1 ขวด จะทำให้หมดปัญหาการสะสม คอนดิชั่นเนอร์ไปได้

4.อย่าใช้ครีมนวดผม (คอนดิชั่นเนอร์) ที่รากผม

จากข้อมูลที่เขียนข้างต้น คงพอจะรู้แล้วว่า ครีมนวดผมไม่สามารถล้างออกไปได้หมด และที่สำคัญจะทำให้เกิดการสะสมที่รากผมจนก่อการอุดตันได้ วิธีใช้ครีมนวดผมที่เหมาะสมก็คือ ให้เริ่มนวดจากปลายผมก่อน เพราะเป็นส่วนที่จะมีผมแตกปลายอยู่มาก จึงต้องบำรุงส่วนนี้ให้มาก จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนไปที่ส่วนกลางเส้นผม ระมัดระวังอย่าให้โดนรากผม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันการเกิดไขมันที่หนังศีรษะได้ แถมโอกาสที่จะเกิดปัญหาผมมันก็ลดลงไปด้วย

5.อย่าหวีผมบ่อยจนเกินไป

การหวีผมจะกระตุ้นหนังศีรษะ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้มีออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ช่วยบำรุงรากผมและช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี นอกจากนี้การหวีผมบ่อย ๆ ยังช่วยให้น้ำมันที่หนังศีรษะลงไปที่เส้นผมและปลายเส้นผม  ส่งผลดีสำหรับผู้ที่มีผมแห้งและผมชี้ฟู แต่สำหรับผู้ที่มีเส้นผมปกติและผมมัน การหวีผมบ่อย ๆ จะทำให้ไปกระตุ้นหนังศีรษะ ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ยังไม่มีตัวเลขมาตรฐานในการหวีผม แต่การหวีผม 50-60 ครั้ง ดูจะเป็นตัวเลขที่พอเหมาะพอดี บวกกับการใช้หวีซี่ห่าง จะทำให้สบายศีรษะได้มาก

6.อย่าปล่อยให้แปรงหวีผมสกปรก

เหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องเท่าไร แต่คนเราก็มักจะลืมทำความสะอาดแปรงหวีผม รู้หรือไม่? แปรงหวีผมของเราผ่านอะไรมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น น้ำมันบำรุงเส้นผม เจลจัดแต่งทรงผม และสิ่งสกปรกอื่น ๆ อีกมาก และเจ้าพวกนี้จะเกาะจับทั้งที่เส้นผมและรากผม ก่อปัญหาการอุดตันที่รูขุมขน การทำงานของรากผมก็จะค่อย ๆ ผิดปกติ ท้ายที่สุด ก็จทำให้ผมมัน ผมร่วง จนถึงทำให้ผมบาง และหัวล้านได้ การทำความสะอาดแปรงหวีผมด้วยแชมพู หรือสบู่อ่อน ๆ จะป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้

7.เลือกใช้แชมพูสำหรับผมมัน (SLS/Silicone free shampoo)

แชมพูสระผมที่เหมาะสำหรับคนผมมัน ก็คือ แบบออกแกนิค หรือ ไม่มี SLS/Silicone … SLS (Sodium laureth sulfate) เป็นสารเคมีประเภทซักฟอก และลดแรงตึงผิว ใช้ในการทำความสะอาด แต่ก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แม้จะใช้ในปริมาณไม่มาก ส่วน Silicone เป็นสารโพลิเมอร์ ที่ผู้ผลิตจะผสมลงไปในแชมพูและครีมนวด เมื่อสระผมแล้วจะนุ่มลื่นหวีง่าย แต่จะล้างออกยาก ดังที่ได้เขียนไว้แล้วในข้อ 4.”อย่าใช้ครีมนวดผม (คอนดิชั่นเนอร์) ที่รากผม” เพราะหากสะสมไปนาน ๆ จะทำให้เกิดปัญหาผมมัน ผมร่วง และอื่น ๆ ได้อีกมาก

8.อย่ารับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด

ในยุคที่ต้องรีบเร่ง อาหารฟาสต์ฟู้ดจึงเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้บริโภค ในส่วนนี้ขอรวมของทอดทุกชนิดเข้าไปด้วยเลย อาหารจำพวกนี้ อย่างที่รู้ ๆ กัน ก็คือจะเต็มไปด้วยน้ำมัน ทำให้ร่างกายสะสมเอาไว้ พอมีต่อมน้ำมันมาก มันก็จะเปลี่ยนเป็นไขมัน ซึ่งก็จะรวมไปถึงหนังศีรษะด้วย ดังนั้นหากคุณมีภาวะผมมัน หรือผมร่วงผิดปกติ ให้รู้ไว้เลยว่า น้ำมันจากอาหารก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเส้นผม แล้วยังลามไปถึงสุขภาพอีกด้วย

9.อย่าลืมกินอาหารจำพวกวิตามินบีและวิตามินอี

วิตามินที่ยืนหนึ่ง จำเป็นและสำคัญสำหรับเส้นผมก็คือ วิตามินบีและวิตามินอี และหากคุณเป็นผู้ที่มีแนวโน้มผมมันยิ่งต้องเติมอาหารจำพวก ผัก ถั่วเหลือง ถั่วลิสง นม ไข่แดง ปลา เนื้อหมูไม่ติดมัน เพราะจะอุดมไปด้วยวิตามินบี จะช่วยทำให้เส้นผมเป็นเงางามและแข็งแรง ส่วนผักใบเขียวเมล็ดทานตะวันและถั่ว จะให้วิตามินอี ซึ่งสารอาหารสำคัญทั้ง 2 ประเภทนี้จะยังควบคุมการผลิตน้ำมันของเส้นผมด้วย แถมยังไปช่วยเติมเต็มในส่วนที่ร่างกายขาดได้

10.อย่าเครียดจนเกินไปนัก

มีคำกล่าวว่า “ผมมันเป็นผลมาจากต่อมไขมันที่ทำงานหนักเกินไป จึงทำให้ผลิตไขมันออกมามากจนเกินควร” นั่นหมายความว่า แม้ไขมันจะดีต่อเส้นผม แต่สำหรับผู้ที่ผมหนาก็จะทำให้เกิดภาวะผมมันได้ง่าย นิสัยการกิน การดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และสภาพอากาศ ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาทั้งนั้น ผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน จะเผชิญกับความวิตกกังวลแทบทุกวัน เมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า “คอร์ติซอล” ออกมา เมื่อระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ต่อมไขมันในหนังศีรษะสร้างไขมันส่วนเกินออกมามาก จนทำให้เกิดการสะสมน้ำมัน ส่งผลให้ผมมันผิดปกติ และตามมาด้วยปัญหาผมอื่น ๆ อีกมาก