วันพฤหัสบดี, 12 ธันวาคม 2567

27 ประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น Ep.119

การวิจัยพบว่า การรับประทานเมล็ดองุ่น และการเคี้ยวเมล็ดโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับสารพิฟีนอล ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น

 

 

เมล็ดองุ่นกินได้ไหม

ปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะคายเมล็ดองุ่นทิ้ง เพราะคิดว่ามันเป็นส่วนเกิน ต่อมาเราก็ได้ยิน ได้อ่านกันมาว่าเมล็ดองุ่นกินได้ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ช่วยชะลอความชราได้ด้วย เพราะเมล็ดองุ่นมีสารที่ชื่อว่า “OPC” (Oligomeric Proanthocyanidin) เป็นสารที่มีสรรพคุณในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย สารนี้จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ปกติแล้วเราพบสาร “OPC” ได้จากวิตามินซีและวิตามินอี  ซึ่งมีค่าสูงมากกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า จากการวิจัยพบว่าการรับประทานเมล็ดองุ่น และการเคี้ยวเมล็ดโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับสารพิฟีนอล ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น

 

สารสกัดเมล็ดองุ่น กินตอนไหน

Grape Seed มีสารสำคัญ คือ OPCs มีคุณสมบัติชอบจับกับโปรตีน และด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้ OPCs ช่วยให้คอลลาเจนแข็งแรง และเสื่อมสลายได้ยาก เพราะ คอลลาเจนก็คือโปรตีนที่เกิดจากกรดอะมิโน 4 ตัว ดังนั้น หากเรากินพร้อม หรือ หลังอาหาร จะไม่เกิดผลเลย เพราะ OPCs ที่เราหวังว่าจะให้ไปจับกับคอลลาเจน จะไปจับกับโปรตีนจากอาหาร หรือ นมที่เราทานเข้าไป ดังนั้น Grape Seed หรือ สารสกัดเมล็ดองุ่น จะให้ดีที่สุด คือทานก่อนอาหารเช้า ประมาณ ครึ่งชั่วโมง และก่อนเข้านอน(ตอนท้องว่าง) ส่วนผู้ที่ทานร่วมกับวิตามินซีหรืออาหารเสริม Grape Seed มีส่วนผสมของวิตามินซี ก็ให้ทานหลังอาหารทันที

 

27 สรรพคุณของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 

  1. สร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรงมากขึ้น
  2. ชะลอความแก่และแห้งกร้านของผิว โดยการลดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
  3. ช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติบนผิว ซึ่งมีสาเหตุมาจากฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ
  4. ปรับสภาพและลดปัญหาสีผิวที่ไม่เท่ากัน
  5. ช่วยป้องกันการสูญเสียวิตามินซี วิตามินอี
  6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  7. ใช้ในการรักษาอาการจอประสาทตาเสื่อม
  8. มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไขข้ออักเสบ ลดภูมิแพ้จากยาต้านไวรัส ยาต้านมะเร็ง เป็นต้น
  9. ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโดยรวมของร่างกาย ทำให้ร่ายกายแข็งมากขึ้น โอกาสในการเจ็บป่วยจึงลดน้อยลงตามไปด้วย
  10. ช่วยในการรักษาอาการเบาหวานขึ้นตา
  11. ช่วยทำให้หายจากอาการบวมน้ำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  12. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตาในการมองเวลากลางคืน
  13. ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร
  14. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต โดยการยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจน
  15. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ 
  16. ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ และหอบหืด
  17. ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ
  18. ช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ให้น้อยลง จากการวิจัยพบว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นหลังจากที่เกิดอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ทำให้ลดอาการบวมและอาการปวดได้มากกว่าการรัลประทานยาหลอก (Placebo)
  19. ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน ลดโอกาสการเกิดแผลในช่องปาก และโรคเริมในช่องปาก
  20. ช่วยลดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย แต่ควรออกกำลังกายร่วมด้วยให้เป็นประจำทุกวัน
  21. ช่วยในการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนล้าเรื้อรัง
  22. สร้างฮอโมนอินซูลิน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลของร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย
  23. ป้องกันเบต้าเซลล์ในตับอ่อน
  24. ช่วยรักษาความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอย ที่มีอาการเปราะบางมากกว่าปกติ
  25. ช่วยในการรักษาโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือโรคลูปัส (SLE)
  26. ช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอด มีผลงานวิจัยหลายชิ้นให้การรับรองว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นประจำ สามารถช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดได้
  27. มีผลคล้ายกับยาแอสไพริน ในการชะลอการเกิดลิ่มเลือดอีกด้วย

 

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ข้อควรระวัง

  1. สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจมีผลในเรื่องของการชะลอการแข็งตัวของเลือด (ทำให้เลือดแข็งตัวช้า)
  2. ผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือผู้ที่เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
  3. ก่อนการผ่าตัดหรือทำฟัน คุณควรหยุดรับประทานอาหารเสริมจากสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายไหลไม่หยุด

 

ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สาร OPC ภายในเมล็ดองุ่น อาจจะทำให้เกิด “อาการโลหิตแข็งตัวช้า” เนื่องจากความเข้มของเลือดลง อาจทำให้เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้ ถ้าหากใช้ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด ดังนั้น ผู้ที่กำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือดอยู่ หรือมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่น รวมไปถึงเด็กและสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น

 

วิธีการเลือกซื้อสารสกัดจากเมล็ดองุ่น

ให้พิจารณาปริมาณของสารเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะสม ซึ่งโดยปกติแล้ว สารสกัดจากเมล็ดองุ่นควรมีปริมาณสาร POC อยู่ที่ประมาณ 92-95% เช่น สารสกัดเมล็ดองุ่น 100 มก. OPC 90% ก็จะได้ค่า OPC 90 ดังนั้นใน 1 เม็ด จึงมี OPC ประมาณ 90 มิลลิกรัม หากการใช้เพื่อรักษาสุขภาพ ควรเลือกประมาณวันละ 50-100 มิลลิกรัม แต่หากต้องการใช้เพื่อบำบัดโรค ควรใช้ในปริมาณวันละ 150-300 มิลลิกรัม

 

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นกิฟฟารีน

 

source : pantipmedthaidisthai