วันศุกร์, 3 พฤษภาคม 2567

(ฮวงจุ้ย) 4 ข้อ การเลือกบ้านพักชายทะเล

บ้านพักตากอากาศ ถือเป็นบ้านหลังที่สอง เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ตากอากาศ” คือบ้านที่ใช้พักผ่อนชั่วคราว ไม่ใช่บ้านที่จะต้องอาศัยอยู่ทุกวัน คนที่มีฐานะหน่อยจึงจะมีโอกาสมีบ้านพักตากอากาศ บางคนบอกว่า บ้านพักตากอากาศไม่เห็นจะต้องดูฮวงจุ้ยเลย จะดีหรือไม่ดีก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับเจ้าของบ้าน ถ้าบ้านหลักมีฮวงจุ้ยดีอยู่แล้ว ซึ่งก็ถูกต้อง แต่การดูฮวงจุ้ยบ้านพักตากอากาศ จะมีวิธีดูที่ต่างไปจากฮวงจุ้ยบ้าน ซึ่งคงไม่เคร่งครัดมากมายอะไร แต่ถ้าดูสักหน่อย ก็จะดีกว่าไม่ได้ดูเลย เรามาดูบ้านพักตากอากาศในรูปแบบทั่วไปกัน

 

 

บ้านชายทะเล

พูดถึงบ้านพักตากอากาศ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงบ้านพักชายทะเลก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบ้านที่ติดชายทะเล จะได้รับประโยชน์จากลมอย่างเต็มที่ ดูๆ ไปแล้วก็ไม่เห็นว่าจะต้องดูฮวงจุ้ยเลย แต่ความจริงแล้วบ้านชายทะเลมีข้อเสียมากมาย การวิเคราะห์ฮวงจุ้ยบ้านจะมีวิธีสังเกตหลายอย่างด้วยกัน

 

1.บ้านติดหาด

โดยปกติสภาพแวดล้อมของชายทะเล มักจะเป็นอ่าวขนาดใหญ่ ที่มีหาดทรายยาวตลอดชายฝั่ง บ้านพักชายทะเล ก็จะเรียงรายโดยรอบอ่าว การเลือกทําเลหรือตําแหน่งของบ้านพักในอ่าว ถือว่าสําคัญมาก ถ้าเลือกผิดก็จะมีผลเสียได้ทันที หลายคนคิดว่าบ้านที่ติดกับหาดทรายเลยถือว่าดีที่สุด เพราะใกล้น้ำทะเล

 

บ้านพักของผู้ที่มีฐานะดี มีหาดส่วนตัว ก็มักจะนิยมสร้างบ้านให้ติดหาด ถ้ามองในเชิงฮวงจุ้ยแล้ว “ถือว่าไม่ดี” เหตุผลก็เพราะ บ้านจ ปะทะกับลมทะเลโดยตรง  เวลาเกิดพายุลมแรง บ้านอาจจะได้รับความเสียหายได้ พูดง่ายๆ ไม่มีกันชนไว้ป้องกันบ้านเลย

 

นอกจากนี้ คนในบ้าน ยังได้รับไอเค็มจากทะเลมากเกินไป ทําให้ตัวเหนียว ผมเหนียว ไม่สบายตัว ปัญหาแบบนี้ ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ให้มีเลย น่าจะดีกว่า เพราะฉะนั้น บ้านชายทะเลที่ถือว่าอยู่ในชัยภูมิที่ดี จะต้องอยู่ห่างจากทะเลพอสมควร อาจจะมีทิวต้นมะพร้าวอยู่ด้านหน้า ให้พอมีลมพัดผ่านเข้ามาถึงบ้านได้ แต่เป็นลมที่ไม่แรงเกินไป บ้านที่อยู่ห่างทะเลมากเกินไป ก็ไม่ดีอีกเช่นกัน เพราะจะไม่ได้ลมเย็นทะเล จึงควรเลือกตําแหน่งที่พอดี ไม่ใกล้หรือห่างจนเกินไป

 

2.บ้านหลังพิงเขา

จุดที่จะต้องสังเกตต่อไปก็คือ ด้านหลังบ้านพิงเขาหรือไม่ ซึ่งโดยปกติสภาพแวดล้อมของ ชายทะเลก็มักจะเป็นภูเขาอยู่แล้ว เหตุผลที่จะต้องพิงเขา ก็เพราะภูเขาจะช่วยลดความแรงของลมทะเลได้ ถ้าลมพัดมาตรงๆ โดยไม่มีเขาบังบ้าน ก็อาจจะได้รับความเสียหายได้ อย่างเช่น บ้านชายทะเลที่ปลูกเอาไว้บริเวณส่วนแหลมของอ่าว ลมทะเลจะปะทะทุกด้านของบ้าน ซึ่งจะทําให้บ้านรับลมมากเกินไป

 

3.บ้านโดดเดี่ยวหลังเดียว

บ้านพักชายทะเล ถ้าอยู่โดดเดี่ยวเกินไป ไม่มีบ้านข้างเคียงอยู่เลย ประเภทหาดส่วนตัว อย่างนี้ต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะในเรื่องของการถูกจถูกปล้น เพราะสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างอํานวย เนื่องจากห่างไกลจากผู้คน เวลาไม่ได้มาพัก ปิดบ้านทิ้งไว้ ก็มีโอกาสที่จะถูกงัดแงะเอาข้าวของมีค่าไปได้ง่าย เพราะปลอด สายตาผู้คน ยกเว้นว่ามีคนเฝ้าบ้าน เพราะฉะนั้น บ้านชายทะเลที่ดี ควรจะอยู่กันเป็นกลุ่ม มียามเฝ้าชัดเจน ไม่ควรไปอยู่โดดเดี่ยวหลังเดียว

 

4.การเลือกทิศบ้าน

การดูทิศทางบ้าน คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อย นึกถึงเรื่องนี้ เพราะโดยปกติบ้านชายทะเล มักจะหันหน้าไปสู่ทะเลอยู่แล้ว แต่ในทางฮวงจุ้ยบอกว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงทิศตะวันตกเอาไว้ เพราะทิศนี้ถือเป็นทิศไม่ดีของบ้านชายทะเล เหตุผลก็เพราะเวลาช่วงบ่ายถึงเย็น พระอาทิตย์จะตกทางทะเล จะส่งผลกระทบในเรื่องแสงแดดที่กระทบน้ำทะเลสะท้อนเข้าบ้าน ทําให้คนในบ้านเสียสายตาได้ง่าย ถ้าเลือกทําเลได้ ก็พยายามหลีกเลี่ยงทางทิศนี้