วันเสาร์, 27 กรกฎาคม 2567

7 วิธีการเลือกที่ดินและการวางตัวบ้านเพื่อรับพลังแห่งโชคลาภ

รูปทรงของที่ดินมีส่วนสำคัญอย่างมาก รูปทรงที่ดินส่วนใหญ่มักจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนรูปทรงอื่นๆไม่ว่าจะเป็นรูปสามเหลี่ยมชายธง รูปตัวที รูปตัวแอล โดยทางฮวงจุ้ยแล้วจะเป็นรูปทรงที่ไม่ดี เรามาดูกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

 

 

1.ที่ดินรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสดีที่สุด

รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะมีด้านเท่ากันหมดทั้ง 4 ด้าน ตัวบ้านจะวางตำแหน่งอย่างไรก็ได้ แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างจะหารูปทรงที่ดินแบบนี้ยาก ส่วนใหญ่จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

 

2.ที่ดินรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าต้องเลือกหน้ากว้างลึก

ที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในทางฮวงจุ้ยบอกว่าให้เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่หน้ากว้างลึก อย่าเลือกหน้ากว้างตื้นพูดง่ายๆคือ ด้านหน้าต้องแคบกว่าด้านยาวที่ลึกเข้าในที่ดิน ถ้าเป็นด้านหน้ากว้างกว่าด้านลึกถือว่าเสียและผิดหลักฮวงจุ้ย

 

3.หากพื้นที่ไม่สมดุลควรเว้นบริเวณหน้าบ้านไว้เพื่อความสมดุล

มีข้อยกเว้น ถ้าหากรูปทรงพื้นที่ไม่สมดุล และเป็นที่ดินผืนใหญ่ จะส่งผลเสียในทางฮวงจุ้ยแต่ก็ถือว่าน้อยหรืออาจไม่มีเลย ในกรณีที่วางตำแหน่งบ้านได้ถูกต้องอยู่แล้วจะมีพื้นที่สมดุล

  • บ้านที่สร้างบนที่ดินที่หน้าแคบลึก ควรวางตัวบ้านเอาไว้ด้านในเพื่อให้มีพื้นที่หน้าบ้าน จะทำให้บริเวณบ้านดูกว้างขึ้น ไม่ควรวางตัวบ้านติดด้านหน้าแล้วเว้นที่ว่างเอาไว้ด้านหลัง
  • บ้านที่สร้างที่ดินหน้าแคบกว้าง ควรวางตัวบ้านไว้ด้านหน้า เว้นที่ว่างด้านข้างบ้านเพื่อปรับสภาพสมดุลภายในบ้านไม่ควรสร้างบ้านเต็มพื้นที่ ในทางฮวงจุ้ยบอกว่าจะเก็บทรัพย์สมบัติไม่ได้ ไหลเข้ามาก็ออก ทันทีเพราะที่ดินตื้นนั่นเอง

ที่ดินที่ถือว่าดีตามหลักฮวงจุ้ย จะต้องเป็นที่ดินที่เข้าลักษณะหน้ากว้างเล็ก จะต้องเป็นรูปทรงที่เก็บชี่ได้ดีที่สุด เรื่องเล็กๆในน้อยแบบนี้ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

 

4.เว้นที่ดินด้านหน้าทำเหม่งตึ้ง

การวางตำแหน่งบ้านที่ดีควรจะเว้นที่ดินด้านหน้าให้มาก หรือมีสนามหน้าบ้าน ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าดีมากเพราะการมีสนามหน้าบ้านนั้น หมายถึง “เหม่งตึ้ง” ลานรับพลังนั่นเอง

ตำราฮวงจุ้ยจะให้ความสำคัญกับ “เหม่งตึ้ง” เป็นด้านหน้ามากพอสมควร ยิ่งตัวบ้านมีขนาดใหญ่เท่าใดก็จำเป็นต้องมี เช่นบ้าน 3 ชั้น 4 ชั้น ซึ่งมีความสูงกว่าบ้านปกติทั่วไป โดยปกติบ้านจะมี 2 ชั้น เหตุผลก็เพราะความสูงของตัวบ้านจะกดลงมาที่ด้านหน้า ถ้าไม่มี “เหม่งตึ้ง”รองรับก็จะทำให้ชี่ที่ไหลเข้าถูกทำลายไปได้ บ้านที่สร้างโดยให้ตัวบ้านชิดรั้วด้านหน้าเกินไปมักจะเจอปัญหานี้

 

5.ทำน้ำพุเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นพลังที่ดีให้ไหลเข้าสู่ตัวบ้าน

การมี “เหม่งตึ้ง” อยู่หน้าบ้านในทางฮวงจุ้ยถือว่าบ้านหลังนั้นจะได้รับพลังแห่งโชคลาภ เพราะชี่ที่ไหลเข้าบ้านจะมารวมตัวกันที่บริเวณลานหน้าประตูเข้าบ้าน ซึ่งโดยปกติบริเวณนี้ อาจทำเป็นน้ำพุหรือบ่อน้ำเพื่อกระตุ้นชี่ที่ดีให้ไหลเข้าบ้านได้อย่างเต็มที่

 

6.บ้านที่เว้นที่ไว้หลังบ้าน หรือข้างบ้านจะไม่ได้รับ “เหม่งตึ้ง” อย่างเต็มที่

บ้านบางหลังที่เว้นที่ว่างไว้ด้านหลังหรือด้านข้างบ้าน จะไม่ได้รับประโยชน์จาก “เหม่งตึ้ง”ได้ดีเท่ากับเว้นที่หน้าบ้านไว้ เพราะด้านหน้าเป็นตัวดึงกระแสชี่ให้ไหลเข้าบ้านได้ดีที่สุด บ้านที่มีพื้นที่กว้างอาจทำให้เหมือนกับเป็นวงเวียนเพื่อให้คนขับรถผ่านหน้าประตูบ้าน จะเป็นลักษณะที่ดีกว่าการทำอย่างอื่น เช่น ทำเป็นเพียงสนามเด็กเล่น เพราะกระแสชี่จะมีการเคลื่อนไหวไหลเวียนเข้าสู่บ้านได้ดีกว่า

 

7.ลักษณะ “เหม่งตึ้ง” ที่ดีจะต้องเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา

เราไม่ควรปล่อยพื้นที่หน้าบ้านเป็นที่รกร้างว่างเปล่า จะทำให้ขาดพลังส่วนนี้ไปได้ ดังนั้นส่วนใหญ่จึงมักนิยมทำเป็นน้ำพุเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหว ทิศที่ดีอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งของหงส์แดงในทางฮวงจุ้ย ถ้ามีน้ำอยู่ทางทิศนี้ลมจะพัดพาเอาน้ำเข้าสู่บ้าน น้ำในที่นี้ก็คือทรัพย์หรือโชคลาภนั้นเอง

 

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะสร้างบ้าน อย่าลืมเหลือที่ดินด้านหน้าบ้านเอาไว้สักหน่อยจะได้มีพื้นที่รับพลังแห่งโชคลาภ เงินทองจะได้ไหลมาเทมา

 

ที่มาและการอ้างอิง

ฮวงจุ้ยการสร้างบ้าน-ต่อเติมบ้าน โดย มาโนช ประภาษานนท์