วันพุธ, 11 ธันวาคม 2567

วัดสันป่ายางหลวง จุดท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดลำพูน ความเป็นมายาวนานกว่า 1,400 ปี

วัดสันป่ายางหลวง ตั้งอยู่ที่ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดลำพูน ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 1,400 ปี พระศพพระนางจามเทวีได้นำมาถวายพระเพลิง ณ วัดแห่งนี้ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อวัด ซึ่งเป็นไปตามภูมิทัศน์ที่มีต้นยางใหญ่เป็นส่วนมาก โดยใช้ชื่อ “วัดสันป่ายางหลวง” จนถึงปัจจุบัน


วัดสันป่ายางหลวง จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดในลำพูนที่ต้องหรือควรมาเยือนนะคะ ตั้งอยู่ในตัวเมืองลำพูน ซึ่งเปิด GPS เดินทางมาก็สะดวกเลย ในวันที่ไปเที่ยวชมจะเป็นวันธรรมดา ซึ่งไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่มีมาเรื่อย ๆ พอได้ถ่ายภาพและชมบรรยากาศแบบสบาย ๆ ไม่เบียดเสียดกันมากนัก แต่เพื่อนบอกว่า หากมาในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุด นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ที่จอดรถก็จะหายากนิดหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดลำพูน ดังนั้นหากใครต้องการมาเยี่ยมชมก็วางแผนกันตามที่สะดวกเลยนะคะ

 

นอกจากจะได้ถ่ายภาพแบบสบาย ๆ แล้ว เราก็ยังมีประวัติวัดสันป่ายางหลวงมาฝากกันด้วย เผื่อว่าเพื่อน ๆ อยากรู้ที่มาที่ไป เวลาที่ไปเที่ยวชมก็จะได้อรรถรสไปอีกแบบหนึ่งเลยนะคะ ..


วัดสันป่ายางหลวง เดิมเป็นศาสนสถานของพราหมณ์ ต่อมามีพระเถระจากประเทศพม่าจำนวน ๓ รูป คือพระกัณฑโว พระโสภโณ พระอุตตโม เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศานาจนเป็นที่เลื่อมใส จึงพร้อมใจกันเปลี่ยนเทวสถานให้เป็นวัด ในปี พ.ศ. ๑๐๗๔ มีชื่อว่า “วัดขอมลำโพง” ตามชื่อของชุมชนนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวขอม มีพระกัณฑโวเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ถือเป็นวัดทางศาสนาพุทธแห่งแรกของแดนล้านนา มีการสร้างพระเจดีย์ และอันเชิญอัฐิธาตุกลางกระหม่อมของอัครสาวก คือ พระโมคคัลลานะกับพระสารีบุตร มาประดิษฐานไว้


จนมาถึงสมัยพระนางจามเทวีมาสร้างเมืองหริภุญชัย เป็นปฐมกษัตริย์องค์แรกเมืองแห่งหริภุญชัย(ลำพูน) ได้บูรณะวัดขอมลำโพง เมื่อปี พ.ศ. ๑๒๐๒ พระนางได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดอาพัฒนารามป่าไม้ยางหลวง” ณ วัดแห่งนี้ พระนางได้ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัย เพราะเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็นเต็มไปด้วยต้นยางใหญ่น้อย เมื่อพระนางสวรรณคต พระศพพระนางจามเทวีก็ได้นำมาถวายพระเพลิง ณ วัดแห่งนี้ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อวัด ซึ่งให้เป็นไปตามภูมิทัศน์ที่ประกอบไปด้วยต้นยางใหญ่เป็นส่วนมาก โดยใช้ชื่อว่า “วัดสันป่ายางหลวง” จนถึงปัจจุบัน


ในสมัยพระครูบาปินตา ธัมมปัญโญ เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ยกที่ดินของวัดด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเป็นที่ถวายพระเพลิงพระศพพระนางจามเทวี ให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลเมืองลำพูน ต่อมาตั้งแต่สมัยของเจ้าอาวาองค์ถัดมา คือ พระครูอภัยคุณวัตน์(พระครูบาคำซาว อุปโล) ถึงปัจจุบัน วัดมีเนื้อที่ ๖ ไร่ ๑ งาน ๒ ตารางวา เสนาสนะของวัดได้รับการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่ในสมัยพระครูปัญญาธรรมวัตน์ พธ.ม.กิตติมศักดิ์(พระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน)


ภายในวัดมีวิหารที่สวยงาม คือ พระวิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย หรือ พระวิหารพระเขียวโขง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ มีมณฑปทรงล้านนา


ด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเมตไตรจำลอง มาจากพุทธคยาตอนที่พระพุทธเจ้าโคตรมะ บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแกะสลักด้วยหินสีเขียวอมดำ เนื้อละเอียด ขนาด ๑๙ นิ้ว พระนามเต็มของพระเขียวโขง คือ พระพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย


การสร้างวิหารพระเขียวโขงนั้น ล้วนสร้างขึ้นเพื่อแฝงความหมายหลายประการ เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นมีหลังคาทั้งหมด ๕ ชั้น มีช่อฟ้า ๕ ตัว ซึ่งหมายถึง พระเจ้า ๕ พระองค์ ส่วนด้านหลังอีก ๓ หมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติของพระพุทธเจ้าเพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพาน สรุปด้านหน้า ๕ และด้านหลังอีก ๓ รวมเป็น ๘ หมายถึง ต้องปฏิบัติตามทางสายกลาง คือ มรรค ๘ ได้ธรรมมัชฌิมา ทางสายกลางคือ ๙ เป็นโลกุตตรธรรม


ตรงกลางหลังคามีเรือหงษ์ และ ฉัตร หมายถึง โลกุตตรธรรม หรือ นิพพาน ความสงบดับเย็นจากกิเลศตัณหา


ด้านล่างมีรูปปั้นผางประทีป เปรียบเหมือนรังกา และกาเผือกนอนในรัง รูปพรหมสี่หน้านั่งอยู่บนหลังกา หมายถึง การกำเนิดตำนานผางประทีปนั่นเอง


เนื่องจากวัดสันป่ายางหลวงเป็นวัดที่เก่าแก่ จึงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่าน่าชมมากมาย เช่น พระพุทธรูปแก้วขาวของเก่าเมืองลำพูน พระพุทธรูปเก่า พระเครื่องสกุลหริภุญชัยที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน แกะสลักจากหินหยกขาว เป็นที่น้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย


ระฆังหลวงใบนี้หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ขนาด ๑ วา มีน้ำหนักมาก ได้จารึกอักษรล้านนาไว้รอบระฆังถึงการก่อสร้างวิหารเขียวโขง และ ประวัติเจ้าแม่จามเทวีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดสันป่ายางหลวงไว้


 

นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวง สร้างใหม่ในปี ๒๕๕๐ มีซุ้มประตูสีขาวขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยเทวดาอารักษ์ ๑๒ องค์ ภายในประดิษฐานพระประธานปางมาวิชัย ซึ่งเป็นพระประธานองค์เดิมเมื่อ 1,300 ปีก่อน ที่ผนังมีภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ


ด้านหลังวิหารหลวงจะมีพระเจดีย์ ซึ่งได้อันเชิญอัฐิธาตุกลางกระหม่อมของอัครสาวก คือ พระโมคคัลลานะกับพระสารีบุตร มาประดิษฐานไว้


จะเห็นได้ว่า วัดสันป่ายางหลวงแห่งนี้ แม้จะมีความเป็นมาอันยาวนานกว่า 1,400 ปีแล้วก็ตาม การบูรณะปฏิสังขรเป็นอย่างดีเรื่อยมา ก็ยังคงทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดลำพูนแห่งนี้ ได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ

 

ทริปหน้าเราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ไหนอีก ก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ฝากชมทริปอื่น ๆ ในแฟนเพจด้วยนะคะ https://www.facebook.com/siamzonezaa/