วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

6 ข้อหยุดคิดสักนิดก่อนจับจ่ายใช้สอย แล้วมาออมเงินกันเถอะ

03 ก.ค. 2017
2487

การวางแผนทางการเงิน

 

การวางแผนทางการเงิน รวมถึงการใช้เงินอย่างมีเป้าหมายใช้จ่ายอย่างมีแนวทางและไม่ประมาทในการใช้เงิน มันคือต้นทางที่จะทำให้คุณคิดจะกู้ยังไงก็ผ่าน 100%

 

1.สุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวว่า “รู้เขารู้เรา”

ในเรื่องของความหวังที่จะขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากคุณมองไปรอบรอบตัวจะพบว่า ผู้คนรอบข้างที่ยื่นขอสินเชื่อเข้าไปจะมีทั้งผ่านและไม่ผ่าน และแน่นอนว่ากว่าจะได้รับการอนุมัติก็ต้องวุ่นวายดิ้นรนเดือดร้อนวิ่งกันให้วุ่น เพราะอะไร?? หลายคนต้องพยายามสร้างเครดิตทางการเงินใหม่ภายใน 6 เดือนร่วมถึงพยายามหาทางปลดหนี้เพื่อให้กลับมากู้ได้อีกครั้ง แต่จะดีและยั่งยืนกว่าหรือไม่หากคุณมีการวางแผนการใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย ใช้จ่ายอย่างมีแนวทางและไม่ประมาทในการใช้เงิน อย่างไรก็ตามคุณจะต้องทำเป็นประจำโดยไม่ต้องมารอทำเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้นในการสร้างเครดิตของตนเอง เพียงเท่านี้ไม่ว่าคุณคิดจะกู้กี่ครั้งคุณก็สามารถกู้ผ่านได้ 100% อยู่เสมอ และที่สำคัญหากคุณมีวินัยทางการเงินมากพอ คุณอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องกู้เลยแม้แต่น้อย

 

2.เลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็นจริงๆ

ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่ดีชักหน้าไม่ถึงหลังบวกกับเงินเดือนที่ได้รับมาก็แค่ชนเดือนเท่านั้น คุณก็ควรต้องคิดก่อนว่าสิ่งไหนมีความจำเป็นกับคุณ เพราะสิ่งของทุกอย่างล้วนมีระดับความจำเป็นไม่เท่ากัน จึงควรต้องคิดพิจารณาก่อนที่จะเสียงเงินซื้อ หากอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องประหยัด คุณก็ต้องใช้เงินให้น้อยแต่คุ้มค่ามากที่สุด ก็ให้ดูสินค้าและบริการที่มีราคาถูกลงกว่าเดิมร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าลดราคา และถึงแม้ว่าจะลดราคาแล้วก็ตามหากไม่มีความจำเป็นจริงๆก็ไม่ควรซื้อ และก็ไม่ควรที่จะใช้บัตรเครดิต ในการซื้อเพื่อที่จะไปเป็นหนี้ในอนาคต

 

3.เมื่อคิดถึงความจำเป็นในการซื้อของต่างๆแล้ว คุณก็ต้องคิดถึงการประหยัดไปด้วย

ด้วยการเปรียบเทียบราคาหลายๆแหล่งก่อนที่จะทำการซื้อสินค้า ในกรณีที่ไม่ใช่สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่เป็นสินค้าในส่วนของการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ประกันภัยรถยนต์ เคเบิ้ลทีวี ก็ควรเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการกับ package เจ้าอื่นๆด้วย เพื่อที่จะได้ดูว่า เจ้าไหนมีโปรโมชั่นที่พิเศษและดีกว่ากัน เพราะมันจะทำให้คุณได้รับผลประโยชน์มากที่สุด คุณอาจไม่จำเป็นต้องเลือกใช้บริการแบบเต็มรูปแบบ ที่ผู้ให้บริการนำเสนอมา เช่น หากติดเคเบิ้ลทีวี ก็จะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือไปด้วย หรือเลือกแพ็คเกจที่จำเป็น อย่างเช่น ในส่วนของประกันภัยรถยนต์จากชั้น 1 ก็อาจจะมาเปลี่ยนเป็นชั้น 2 หรือชั้น 3 แทนก็ได้

 

4.ให้พิจารณาในการสมัครแพ็คเกจบริการต่าง ๆ

ว่าการสมัครแพ็คเกจรายปีกับรายเดือนอย่างไหนจะถูกกว่ากัน อย่างเช่น การสมัครสมาชิกนิตยสารรายปี ที่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะได้รับส่วนลดและยังมีของแถมอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก  อย่างไรก็ดี ก็ควรดูที่ความจำเป็น เป็นหลัก เพราะสิ่งที่เป็นส่วนเสริมมานั้นอาจเกินความต้องการของคุณ คุณอาจจะไม่ได้ใช้มันจริงๆก็ได้ แล้วต้องมานั่งคิดหนักว่าสิ่งที่ทำไปมันเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ การใช้บริการหลายๆอย่าง เช่น เคเบิลทีวี การดูทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต การสมัครเป็นสมาชิกรายปีกับโปรแกรมต่าง ๆ  แม้จะมีแพ็คเกจสุดคุ้มล่อตาล่อใจ ได้ทั้งส่วนลดและของแถม แต่ในสภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจมีปัญหา และ เงินเดือนที่ได้มายังคงชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่ไม่มีความจำเป็น เลิกใช้บริการไปได้ก็ให้เลิกใช้ไปบ้าง ไม่จำเป็นต้องซื้อ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณประหยัดไปได้มากและเอาเงินส่วนนั้นไปจ่ายชำระหนี้ ในส่วนที่จำเป็นจะดีกว่า

 

5.คุณต้องไม่ทำเงินเก็บให้รั่วไหล

โดยวิธีการที่จะกระตุ้นเตือนให้คุณเก็บออมอยู่เสมอแม้จะเป็นเงินเล็กๆน้อยๆหรือเศษเหรียญ ซึ่งหากนำมารวมกันแล้วจะเป็นเงินจำนวนมากได้ในอนาคต นั่นก็คือการหากระปุกออมสินมาวางไว้ในที่ที่คุณเห็นอยู่เสมอ เช่น ที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะหน้าบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านไปก็จะเจอได้ทันที การฝึกนิสัยการออมนั่นคือ คุณจะต้องหยอดออมสินทุกครั้งที่มีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋า

ในขณะที่บางคนอาจจะใช้วิธีพยายามไม่พกเงินติดตัวไว้มาก โดยจะกดครั้งละ 1-200 บาทเท่านั้น แต่มันอาจกลายเป็นว่า ใช้ไปใช้มากดทีละ 1-200 จะหมดเร็วมากกว่า เพียงเพราะนึกว่าเป็นการประหยัด เพราะในหนึ่งวันคุณอาจจะกดไป 2-3 ครั้งก็อาจจะเป็นได้ แต่ปัญหานี้ อาจจะแก้ด้วยการกดเงินออกมาจำนวนหนึ่งตามที่ได้วางแผนเอาไว้ให้พอใช้ใน 1 สัปดาห์ แล้วก็เก็บบัตร atm ไว้เลย และคุณต้องสัญญากับตัวเองว่า จะไม่เอามากดใช้อีก หากยังไม่ถึงในสัปดาห์ถัดไป การหยอดหยอดกระปุกออมสินด้วยก็เช่นกัน หากคุณหยอดกระปุกวันละ 10 บาท 1 ปีก็เท่ากับคุณมีเงินถึง 3,650 บาท แต่ถ้าหากคุณหยอดกระปุกมากกว่านั้นสิ้นปีคุณก็จะมีเงินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 

6.การออมเงิน เป็นการสร้างฐานชีวิตที่ดี

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ก็ตาม เพราะทุกคนต่างต้องการมีชีวิตที่ดีมีเงินใช้จ่ายคล่องมือและมีฐานะที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่เพราะปัญหาเศรษฐกิจทำให้ชีวิตไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ และปัญหาสำคัญก็คือคุณไม่สามารถออมเงินได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีทางออมเงินได้แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำหรือออมเงินฝากประจำรายเดือนตามที่คุณได้กำหนดเอาไว้

วิธีแก้ก็คือเมื่อได้เงินเดือนมา ก็ให้หักออกแล้วบริหารเงินที่เหลือให้พอในเดือนนั้นๆ จะเป็นการดีที่สุด คนส่วนมากเข้าใจหลักการเก็บเงินออมเงินกันหมด แต่ไม่รู้จักบริหารเงินออมที่ได้มาเพื่อให้มันงอกเงย ดังนั้นรู้จักแค่เก็บแต่ไม่รู้จักบริหารเงินออมก็ไม่มีทางรวยได้เช่นกัน เพียงแค่มีการวางแผนและแบ่งสรรปันส่วนเงินออมได้อย่างที่คุณตั้งใจให้ได้ก่อน เพราะหลักการออมที่ดีและมีประสิทธิภาพคือ รายได้-เงินออม = ค่าใช้จ่าย นั่นเอง