วันเสาร์, 27 กรกฎาคม 2567

5 วิธีการออม ออมอย่างไรให้ได้ดอกผล เสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย ไปดูกัน

06 ก.ค. 2017
1793

ออมอย่างไรให้ได้ดอกผล

 

หากคุณมีเงินออมอยู่จำนวนหนึ่งและเก็บไว้เฉยๆ เวลาผ่านไปมันก็ไม่ได้สร้างมูลค่าอะไรให้กับคุณ ดังนั้นบรรดาเหล่าสถาบันการเงินจึงคิดวิธีการต่างๆ ออกมานำเสนอให้กับลูกค้า ในส่วนของผู้ที่มีเงินออมก็เช่นกัน เราควรรู้หลักการออมขั้นพื้นฐาน ที่จะช่วยให้เงินของคุณได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย เมื่อฝากไว้กับสถาบันการเงินและยังมีผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีให้กับคุณ มากกว่าที่คุณจะเก็บเงินไว้เฉยๆอีกด้วย

 

1.ออมเงินโดยซื้อกองทุนรวม

ลักษณะของกองทุนรวม อาจจะพูดง่ายๆก็คือแต่ละบริษัทหรือสถาบันการเงิน จะเปิดให้เราซื้อหน่วยลงทุน แล้วบริษัทจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางด้านการลงทุนเป็นผู้ตัดสินใจในการลงทุนแทนเรา โดยการนำหน่วยลงทุนที่เราซื้อไปทำการลงทุนในกองทุนต่างๆ เราก็มีหน้าที่แค่รอรับเงินปันผลหรือดอกเบี้ย แต่จะมีการกำหนดโดยที่ความเสี่ยงของการลงทุนชนิดนี้จะมากน้อยต่างกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคุณนั่นแหละว่าจะยอมรับความเสียงได้มาขนาดไหน

 

ในส่วนของกองทุนมีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1.1 กองทุนปิด ซึ่งจะมีมูลค่าเงินลงทุนที่แน่นอน มีกำหนดอายุเวลาสำหรับการไถ่ถอน คล้าย ๆ กับการที่เรานำเงินไปฝากประจำ แต่มันจะกลายเป็นในรูปแบบเงินลงทุนตามตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ซึ่งหากผู้บริหารกองทุนมองการร์ไกล เอาเงินไปลงทุนได้ดี เมื่อถึงเวลาที่เราได้เงินคืนมา ก็จะได้กำไรกลับคืนมาด้วย ซึ่งกองทุนชนิดนี้จะมีความเสี่ยงพอสมควร เพราะหากผู้บริหารกองทุนเก่งสามารถทำกำไรได้มากเราก็ได้รับปันผลมากไปด้วย แต่หากบริหารแล้วขาดทุน เงินเราก็จะหายไปอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคุณจะถอนออกมากลางคันไม่ได้ด้วยนะ จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเงินสำรองมากนัก

 

1.2 กองทุนเปิด กองทุนชนิดนี้จะมีลักษณะคล้ายกองทุนปิด เพียงแต่เราสามารถถอนเงินคืนได้ตามต้องการ ความเสี่ยงก็จะน้อยลงมา และในส่วนของผลตอบแทนหากได้กำไร ก็จะไม่มากเท่ากับกองทุนปิด แต่อย่างไรก็ดีการลงทุนในกองทุนเปิดนี้ ด้วยความที่คุณสามารถขายหน่วยลงทุนคืนได้ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนบนความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก และเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนค่อนข้างจำกัด

 

2.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือ RMF  

(Retirement Mutual Fund) ส่วนนี้คือการซื้อกองทุนรวมชนิดพิเศษ ที่มีจุดประสงค์ในการส่งเสริมการออมไว้เพื่อเตรียมการเกษียณ โดยผู้ซื้อต้องซื้อติดต่อกันจนอายุถึงตามเกณฑ์เกษียณที่กำหนดไว้ ส่วนมากจะเป็นอายุ 55 ปีหรือต้องซื้อต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถถอนเงินออกจากกองทุนได้โดยไม่ต้องเสียภาษี

 

3.กองทุนหุ้นระยะยาวหรือ LTF

(Long Term Equity Fund) กองทุนนี้จะส่งเสริมด้านการลงทุนระยะยาว เงื่อนไขส่วนใหญ่จะคล้ายกับ RMF และเช่นเดียวกันว่ าคุณต้องลงทุนซื้อหุ้นติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะถอนเงินออกจากกองทุนรวมได้โดยปราศจากการเสียภาษี

 

สำหรับสิ่งที่น่าสนใจเป็นเป็นพิเศษสำหรับ RMF และ LTF คือสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ในขณะเดียวกันกองทุนเหล่านี้ก็มีความเสี่ยงพอประมาณ ซึ่งในกองทุน RMF ก็จะมีประเภทการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น หรือลงทุนในตราสารหนี้ หรือทั้ง 2 อย่าง ซึ่งแน่นอนว่าอัตราความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นจะสูงกว่าในตราสารหนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน และสำหรับ LTF จะมีความเสี่ยงสูงเสมอเพราะมันเป็นการนำไปลงทุนในหุ้น

 

4.ออมเงินด้วยการเล่นหุ้น

ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าเป็นหวยอย่างหนึ่งสำหรับคนรวย ซึ่งหลักง่ายๆในการเล่นหุ้นที่คนส่วนใหญ่คิดก็คือให้ผลตอบแทนดีสม่ำเสมอ แต่ยังไงก็ตามเราก็ต้องทำการศึกษาก่อนเล่น เพราะว่ามีความเสี่ยงสูงมาก หากเราไม่มีประสบการณ์เลยและลงทุนเล่นหุ้นโดยไม่ยั้งคิด อาจจะกลายเป็นว่าเราเอาเงินออมไปทิ้งโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการศึกษาให้แน่ชัดก่อนที่จะลงทุนจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

 

5.ออมเงินด้วยการซื้อตราสารหนี้

เช่น พันธบัตรรัฐบาล การลงทุนประเภทนี้ก็คือนำเงินออมสำหรับการลงทุนไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล เสมือนว่าเราให้รัฐบาลยืมเงินเราไป และเราก็เก็บพันธบัตรไว้ แล้วเมื่อครบกำหนดเวลา เราก็จะได้เงินส่วนนั้นคืนพร้อมดอกเบี้ยตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งการลงทุนชนิดนี้มีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นมาก แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนก็ไม่ได้มากด้วยเช่นกัน