ขึ้นชื่อว่าเรื่องของการออมเงิน อย่างไรก็ต้องเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าหากมีการปลูกฝังให้รักการออมเงินตั้งแต่วัยเด็ก รู้หรือไม่ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การออมเงินมักไม่ค่อยได้ผลในวัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่ เพราะไม่ได้รับการปลูกฝังการออมเงินตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อมีเงินก็ใช้ตามความต้องการ โดยไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ดังนั้น หากเป็นไปได้ ถ้าคุณมีลูกหรือมีหลานก็ควรจะปลูกฝังนิสัยรักการออมให้กับเขาด้วย เพื่อเป็นหลักประกันสำคัญให้กับชีวิตของเขาเมื่อเติบโตขึ้น เพราะอย่างน้อยเขาก็จะมีเงินก้อนหนึ่งที่ติดตัวไว้ใช้ยามจำเป็นโดยไม่ขัดสนมากนัก แต่ทั้งนี้การออมไม่ได้แปลว่าต้องสอนให้เขาเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว แต่ต้องออมแบบพอดี ๆ จะทำให้เขาซึมซับนิสัยนี้ไปจนแก่ และไปสอนลูกหลานได้อีกด้วย
เกริ่นมาเยอะแล้ว มาดูกันว่าการออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อยมีข้อดีอะไรบ้าง
-
ฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบ
เคยได้ยินกันหรือไม่ ว่ายิ่งโตก็จะยิ่งมีรายจ่ายมากขึ้น เพราะตอนเป็นเด็กเราแทบจะไม่ต้องเสียอะไรเลย แต่เมื่อโตขึ้น มีหน้าที่การงาน สิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวบังคับให้เราต้องใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรฝึกให้ลูกหลานของคุณรู้จักการเก็บออมจากเงินที่ได้มา โดยอาจจะให้เหตุผลว่า เขาสามารถเอาเงินที่เก็บออมนี้ไปซื้อสิ่งที่ชอบหรือต้องการได้ในอนาคต หรืออาจจะบอกว่าเอาไว้เป็นค่าเรียนหนังสือ เผื่ออนาคตพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับหนูอีก อธิบายเหตุผลดี ๆ ให้เขาเข้าใจ แล้วลองสอนให้เขาวางแผนการเงินดู เช่นเก็บเงินออม 10-20% จากเงินที่ได้มา เพียงแค่นี้ก็สร้างนิสัยรักการออมให้กับเขาได้ โดยที่เขาไม่รู้สึกถูกบังคับแล้ว มีเด็กหลายคนที่พ่อแม่ชอบบังคับ ได้มาเท่าไรก็เก็บเท่านั้น ไม่ให้ใช้เลย และไม่อธิบายเหตุผล จึงทำให้ไม่สามารถมีนิสัยรักการออมที่ดีได้ในปัจจุบันเพราะเกิดความแอนตี้หรือเก็บกดสะสม
-
ยิ่งโต ก็ยิ่งไม่กล้าเสี่ยง
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับเจ้าหนูน้อยไปสักนิด แต่ความจริงก็คือความจริง เรามักจะเห็นคนหลาย ๆ คนที่ล้มเหลวทางการเงิน จนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง และฆ่าตัวตาย จากการผิดหวังในการลงทุน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของด้านการเงินก็ว่าได้ บางคนกว่าจะเก็บออมเงินได้สักก้อน ก็ใช้เวลาหลายปี และเริ่มมีอายุแล้ว เอามาลงทุนก็หวังว่าจะสบาย แต่สุดท้ายก็ขาดทุน บางคนก็กลัวจะขาดทุน ก็เลยไม่กล้าลงทุน เห็นมั้ยว่ายิ่งแก่ตัวเราจะยิ่งคิดมากขึ้น เพราะฉะนั้นนอกจากออมเงินแล้ว คุณก็ควรสอนเจ้าตัวน้อยให้รู้จักการลงทุนด้วย (ไม่ได้หมายถึงให้เอาไปซื้อหวยนะ) เพราะถ้าเขารู้จักความผิดพลาดในการลงทุนตั้งแต่เด็ก เขาจะมีภูมิต้านทานในระดับหนึ่งที่จะไม่กระทำซ้ำ หรืออาจลองหาวิธีอื่นที่จะทำให้ได้กำไรกลับคืนมา ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นพ่อมดทางการเงินคนใหม่ในประเทศด้วย หากเขามีความสนใจอย่างจริงจัง จำไว้อย่างหนึ่งว่าอย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายเข้าไว้ เด็กน้อยจะให้ความสนใจไปจนถึงรักมันด้วยตัวเอง
-
เขาสามารถเรียนรู้คุณค่าของเงินได้ด้วยตัวเอง
เด็กบางคนพ่อแม่ให้เงินใช้ฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่เด็ก จะซื้ออะไรก็ได้ จะเอาอะไรก็ได้ จนทำให้ไม่รู้คุณค่าของเงิน และติดตัวมาเป็นนิสัยจนเติบใหญ่ก็ยังใช้เงินแบบนี้เช่นเดิม ถ้าหากบ้านไม่รวยแล้วล่ะก็อนาคตต้องลำบากอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณควรสอนให้เขารู้จักการเก็บออมเงิน และลองให้ทำงานแลกเงินดูเหมือนที่เห็นในข่าวปัจจุบัน ที่ลูกไม่อยากเรียนหนังสือ ก็ให้ไปเก็บขวดขาย ไปขายพวงมาลัย ซึ่งเป็นการสอนที่ดีและทำให้เด็กได้เห็นภาพจริง เด็กจะรู้สึกเหนื่อยและเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่าเงินหายากมากแค่ไหน หลังจากนั้นเขาจะรู้จักคิดทุกครั้งก่อนการใช้เงินมากขึ้น ถ้าจะให้วิธีนี้ได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น พ่อแม่ควรใจแข็งสักนิดในการฝึกสอน อย่าคิดว่าลูกยังเล็กกลัวเขาจะลำบาก เพราะถ้าเขาไม่รู้จักคุณค่าของเงินตั้งแต่เด็กแล้ว คนที่จะลำบากก็คือเขาเองนี่แหละในอนาคตเมื่อคุณไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
-
เกษียณก่อนวัย
หัวข้อนี้ไม่ได้ห่างไกลจากตัวเด็กน้อยทั้งหลายเลย ยิ่งถ้าเขาออมได้มากเท่าไร ก็แปลว่าเขาไม่ต้องทำงานจนอายุ 60 เหมือนพวกเรา ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีเงินเกษียณใช้หรือเปล่า เดี๋ยวนี้เรามักจะเห็นวัยรุ่นมีเงินเก็บเป็นหลักล้าน มีทุกอย่างที่อยากจะมี ก็เพราะนิสัยรักการออมและรู้จักการนำไปลงทุนให้เกิดประโยชน์ กลายเป็นวัยรุ่นร้อยล้านพันล้าน ซึ่งพวกเขานึกอยากจะเลิกทำงานเมื่อไรก็ได้ เพราะมีเงินกินเงินใช้ตลอดชีวิตแล้วนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อให้เกิดประโยชน์ดีๆ มากมาย เพราะฉะนั้นมาเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่วันนี้กันเลยดีกว่า ส่วนคนที่มีลูก ก็ควรฝึกให้ลูกได้รู้จักออมเงินด้วย โดยเริ่มต้นจากการออมเงินค่าขนมก่อนเป็นอันดับแรก ง่ายสุดแล้ว
