วันอาทิตย์, 6 ตุลาคม 2567

5 ข้อ รายได้สูง ไม่ได้หมายความว่าความสุขจะสูงตามไปด้วย

13 พ.ย. 2017
2089

 

 

เป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการมีรายได้สูง ๆ ในชีวิต ถึงกับมีกระทู้ Pantip ตั้งกันรายวันเลยทีเดียวในเรื่องของการมีเงินเดือนเท่าไรจึงจะพอกับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีการหยิบยกเศรษฐกิจและปัจจัยต่างมาเป็นตัวประกอบในการมองหาฐานเงินเดือนที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละบุคคล แต่สำหรับคนที่มีรายได้สูงบางคนอาจจะไม่ได้คิดเช่นนี้ก็ได้ เพราะเมื่อยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว รายได้มากเท่าไรรายจ่ายก็ตามมามากเท่านั้น จนบางทีอาจจะไม่มีเงินเก็บเลยด้วยซ้ำ กลายเป็นสร้างความทุกข์ให้มากกว่าความสุขเสียอีก มาดูกันว่าทำไมเขาถึงมีเหตุผลเช่นนั้น

 

1.ยิ่งรายได้เยอะก็ยิ่งต้องเสียภาษีมาก

บางคนเงินเดือนแค่ 15,000 – 20,000 ก็โอดครวญซ้ำแล้วซ้ำอีกถึงเรื่องภาษีที่ต้องเสีย บางคนถึงขั้นหลบเลี่ยงภาษีกันเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าหากตรวจเจอเมื่อไร ก็โดนย้อนหลังเมื่อนั้น เพราะฉะนั้นผู้มีมีรายได้สูงก็ต้องก้มหน้าก้มตาจ่ายกันไป อันไหนลดหย่อนได้ก็ต้องลด และนี่คือปัญหาที่หลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ถึง เพราะยิ่งมีรายได้มาก ขั้นภาษีก็ต้องมากตาม ยิ่งใครที่มีรายได้รวมทั้งปีมากกว่า 5 ล้านบาท ต้องเสียภาษีมากถึง 35% หรือจะเทียบง่าย ๆ คือถ้ามีเงินเดือน 50,000 ทุกเดือน ก็จะต้องเสียภาษีมากถึง 21,500 แล้วจะบอกว่ามีรายได้สูงเป็นเรื่องที่ดีได้อย่างไร ยังไม่นับภาระงานที่ตามมากับเงินเดือนที่ได้อีกนะ

 

2.ภาระงานที่ตามมา

ทิ้งท้ายไว้หน่อยหนึ่งแล้วในหัวข้อภาษี ใช่แล้ว ยิ่งถ้าคุณมีเงินเดือนมากเท่าไร ก็ย่อมต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น เพราะบางครั้งคุณอาจต้องดูแลลูกน้องตามความเหมาะสม วันเกิดก็ต้องจ่าย วันหยุดเทศกาลก็ต้องเลี้ยง จะไม่เลี้ยงก็คงจะโดนลูกน้องนินทาไม่ใช่น้อย ก็ต้องซื้อใจกันไว้ก่อนเพื่อให้การงานสะดวกมากยิ่งขึ้น คนเป็นลูกน้องก็ดีใจไปที่ได้รับเลี้ยง ถึงขั้นอิจฉาและอยากมีรายได้สูง ๆ บ้าง ทั้งที่ความจริงเขาอาจต้องนำไปใช้เพื่อครอบครัวหรือทำอย่างอื่น ยิ่งเดือนไหนเทศกาลเยอะ ลูกน้องมีวันเกิดบ่อยยิ่งต้องเสียเงินเยอะ อาจถึงขั้นต้องควักเนื้อกันเลยทีเดียวกว่าเงินเดือนจะออกอีกรอบ แล้วถ้าหากลูกน้องทำให้งานเสียหาย ก็ต้องมาจ่ายเพื่อชดเชยให้อีก ถือเป็นภาระอย่างหนึ่ง หากบริหารการเงินได้อย่างลงตัวก็จัดได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ

 

3.หนี้สินที่เกิดขึ้น

ใครบอกว่ารายได้สูงแล้วจะต้องไม่มีหนี้ เชื่อสิว่าเกือบทุกคนเลยแหละที่มีเงินเดือนมากกว่า 50,000 ขึ้นไป ก็ต้องเริ่มมองหาบ้านและรถยนต์ที่ชอบแล้ว (30,000 ก็เริ่มแล้วในปัจจุบันนี้) เมื่อถูกใจก็เริ่มจะทำเรื่องขอสินเชื่อ เป็นหนี้ระยะยาวกันไป สำหรับบางคนที่มีบ้าน มีรถยนต์อยู่แล้ว ก็อาจเริ่มมองหาบัตรเครดิตมาพกพา ซึ่งปัจจุบันมีโปรโมชั่นให้เลือกกันมากมาย ใครที่ใจดีหน่อยก็อาจจะแจกบัตรเสริมให้คนในครอบครัวประหนึ่งว่าแจกไพ่เลยทีเดียว ใครอยากใช้อะไรก็ใช้ไป มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องใช้หนี้ตอนสิ้นเดือน แต่จะบ่นจะโวยวายอะไรก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แค่กดเงินเดือนออกไปใช้หนี้แค่นั้น ซึ่งหนี้ในส่วนนี้บางครั้งอาจจะมากกว่าจำนวนเงินเดือนที่ได้อีกด้วย เพราฉะนั้นจึงควรระมัดระวังและวางแผนการเงินให้ดี ๆ เพราะส่วนมากคนที่มีรายได้สูงมักจะลำพองใจในตัวเองและใช้เงินไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังสักเท่าไร

 

4.สภาพสังคมที่เปลี่ยนไป

แน่นอน หากใครต่อใครรู้ว่าคุณมีเงินเดือนสูง ก็ต้องแนะนำ หรือยุส่งให้คุณเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวด้วย จากเมื่อก่อนช่วยกันทำงานบ้านในครอบครัวได้ พอเมื่อมีรายได้สูงมีภาระงานที่มากขึ้นก็ต้องเริ่มจ้างคนใช้ อะไรที่เคยใช้อยู่แบบเดิม ๆ ก็ต้องเปลี่ยนให้ดูดีและหรูหรามากขึ้น แบบที่เราเรียกว่าวัตถุนิยมนั่นแหละ ครั้นจะไม่เปลี่ยนอะไรเลยก็กลัวจะโดนนินทา บางคนก็มักจะอ้างว่าทำงานเหนื่อยมาตลอดทั้งเดือน ก็อยากจะใช้จ่ายอะไรเพื่อความสุขบ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วความสุขที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักบาทก็สร้างได้แล้ว ซึ่งนี่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงของคนที่มีรายได้สูง ถามกันจริง ๆ เถอะว่าการใช้เงินจับจ่ายซื้อทุกอย่างให้เหมาะกับสภาพสังคมที่กำหนดขึ้นมาเอง ทำให้มีความสุขที่แท้จริงหรือไม่ หรือทุกข์ใจมากกว่าเดิมเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่จำเป็นต้องซื้อ

5.รายได้สวนทางกับรายจ่าย

ข้อนี้เป็นการสรุปรวมเหตุผลตั้งแต่ข้อ 1 – 4 เพราะทุกอย่างที่กล่าวมา ล้วนเป็นรายจ่ายทั้งหมดทั้งสิ้น ซึ่งสามารถเพิ่มเติมได้ไปเรื่อยอีก ๆ แต่รายได้ของคุณกลับคงที่อยู่เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการบริหารทางการเงินค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หลาย ๆ คนไม่มีความสุขเหมือนตอนได้เงินเดือนน้อย ๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก มีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น และยังเหลือเก็บไว้ในธนาคารอีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่าบางครั้งการเป็นคนรวยก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการรู้จักบริหารเงินและรู้จักสร้างความสุขให้กับตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นใครที่มีรายได้น้อยก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่ตัวเงิน วัดกันที่ความพอเพียงมากกว่า